5 หุ้นถูกขายหนักรอบ 15 วัน

วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องมานั่งสำรวจความพร้อมของตลาดหุ้นไทยในโค้งสุดท้ายมีโอกาสไปต่อแรงขนาดไหน?


เจาะกระดาน: โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องมานั่งสำรวจความพร้อมของตลาดหุ้นไทยในโค้งสุดท้ายมีโอกาสไปต่อแรงขนาดไหน? เพราะอาการแกว่งตัว “ขึ้นแรงลงแรง” ในกรอบ 1,260-1,320 จุดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้อีฉันสงสัยเหลือเกินว่า ตลาดหุ้นไทยจะไปได้ไหม? เพราะเหมือนกับว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังรออะไรสักอย่าง? และถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นเรื่องงบไตรมาส 3 จะตรงปกขนาดไหนกระมัง!

*เนื่องจากประเด็นอื่นไม่น่าจะมีอิทธิพลกับการลงทุนในช่วงนี้มากนัก ผนวกกับตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่ช่วงของการเก็งเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะโตแรงขนาดไหน? จึงทำให้เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูง ซึ่งทำให้อีฉันต้องไปค้นข้อมูลการขึ้นลงของหุ้นในช่วง 15 วันมีอะไรที่ผิดปกติไหม? และผลที่ได้ก็คือ ไม่มีอะไรผิดปกติเหมือนที่กังวล เพราะหุ้นใหญ่ไม่ได้ถูกถล่มจนโงหัวไม่ขึ้นนะซี

*โดยข้อมูลดังกล่าวยืนยันได้จากการปรับตัวลงของหุ้นรายตัวที่ลงหนัก ๆ มีหุ้นใหญ่ติดโผดังกล่าวเพียงไม่กี่ตัว “โมนิก้า” จึงมองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,291.46 จุด บวกไป 4.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.32 หมื่นล้านบาท ยังเป็นโอกาสของการเล่นเก็งกำไรในระหว่างรอข่าวดีใหม่ ๆ ขณะเดียวกันก็อยากให้แฟนคลับสำรวจข้อมูลหุ้นถูกทิ้งหนัก มีตัวไหนที่นักลงทุนต้องเป็นกังวลบ้างไหมพะยะค่ะ

*ประเดิมกันด้วยหุ้นร้อนที่ตกเป็นขี้ปากชาวหุ้นอย่าง THAI กันก่อนเลยดีกว่า หลังนักเล่นทั่วสารทิศลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การเมืองกำลังเริ่มปฏิบัติการล้วงลูก เพราะต้องการส่งคนของตัวเองเข้ามาคุม ทำให้นักเล่นหวาดวิตกอย่างหนักว่า เดี๋ยวจะเจ๊งเหมือนเมื่อก่อน ส่งผลให้ราคาหุ้นในช่วง 15 วันร่วงจากระดับ 13.10 บาท ลงมายืนอยู่ที่ระดับ  10 บาท หรือลง 23% แบบนี้..คุณ ๆ คิดว่า เรื่องมันจะแย่เหมือนที่กลัวกันไหมล่ะคะ

*ส่วนรายที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ด้านออกแบบวิศวกรรมพลังงาน และปิโตรเคมีอย่าง TTCL  แต่ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องรายได้ไม่เข้า และยังมีหนี้หุ้นกู้พันตัวหนึบหนับ ส่งผลให้ในช่วงปีครึ่งพบกับการขาดทุนบานเบอะ และทำให้ราคาหุ้นร่วงเป็นนกปีกหักเป็นเวลานาน แถมในช่วง 15 วันที่ผ่านมายังถูกขายหนัก จนราคาหุ้นร่วงจาก 0.85 บาท ลงมายืนอยู่ที่ 0.68 บาท หรือลงไป 20% แบบนี้..ต้องทำใจสถานเดียวแล้วนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ VGI ที่วันนี้ตกอยู่ในสภาพขาลงเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ หรือการต่อยอดใหม่ ๆ ก็ไม่เป็นเหมือนที่วางแผนไว้สักอย่าง และถ้าเหลือบดูกลุ่มทุนใหม่ที่กระโดดเข้ามาซื้อ PP ในช่วงปลายปี 67 ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท ก็ทำให้เห็นสภาพของหุ้นนั้นร่องแร่งเหลือเกิน ผนวกกับในช่วง 15 วันที่ผ่านมาหุ้นร่วงจาก 1.58 บาท ลงมายืนอยู่ที่ 1.33 บาท หรือลงเกือบ 16% ก็คงต้องกล่าวคำว่า บ๊าย..บายนะคะ

*อีกรายที่ “เกือบหลับ แต่กลับมาได้” ต้องยกให้ปูนใหญ่ SCC หลังถูกเทขายเป็นเวลาครึ่งเดือน จนหุ้นร่วงจาก 230 บาท ลงมายืนอยู่ที่ 202 บาท หรือลงไป 12% ก็เป็นช็อตที่น่าคิดเหมือนกันว่า หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร? เพราะหลายคนเชื่อว่า ผลงานในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นเป็นลำดับ ขณะเดียวกันอย่าลืมว่า ราคาหุ้นในช่วงต้นไตรมาส 2  อยู่ที่บริเวณ 130 บาท อีฉันเลยมองว่า การยืนปิดบริเวณนี้ ก็เป็นเรื่องที่รับได้เจ้าค่ะ

*ส่วนรายของ THG อาจมีลักษณะแตกต่างจากรายอื่นค่อนข้างเยอะ เพราะสภาพโดยรวมของหุ้นอยู่ในช่วงย่ำฐานเป็นแรมเดือน แม้ในบางจังหวะจะดีดตัวขึ้นแรง แต่สุดท้ายก็อ่อนตัวกลับมาที่ฐานเดิม “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินในช่วงครึ่งเดือนที่หุ้นย่อตัวจากระดับ 7.70 บาท ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 6.80 บาท หรือลงไป 11.70% ซึ่งใกล้เคียงกับฐานเดิม และมีลุ้นเทิร์นอะราวด์..น่าสนใจไหมล่ะคะ

Back to top button