TNP ดาวเด่นหุ้นค้าปลีก…รับเต็มมาตรการรัฐ

การฟื้นโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล กลายเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก หนึ่งในนั้น คือ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP


คุณค่าบริษัท

การฟื้นโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่เสียภาษีซึ่งมีประมาณ 11 ล้านคน รัฐบาลจะช่วยจ่ายสมทบ 60% และประชาชนจ่ายเอง 40% หรือรูปแบบ 60:40 ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีจะได้รับสิทธิเช่นเดิมที่ 50:50 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย กลายเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก หนึ่งในนั้น คือ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ห้างค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภายใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” TNP เป็นห้างค้าปลีกภูธรที่มีฐานที่มั่นอยู่ในจังหวัดเชียงราย โดยก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2508 ภายใต้ชื่อ “โง้วทองชัย” และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ธนพิริยะ” ก่อนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2558 ด้วยไอพีโอ 1.75 บาท

ปัจจัยพื้นฐานของ TNP ถือว่าแข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้เกิน 2,000 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิยืนเหนือร้อยล้านบาท โดยปีที่แล้วมีรายได้ 2,893.08 ล้านบาท กำไรสุทธิ 185.54 ล้านบาท ส่วนครึ่งแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 1,473.44 ล้านบาท กำไรสุทธิ 100.86 ล้านบาท ด้านความสามารถในการทำกำไรก็ใช้ได้ สะท้อนได้จากอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยที่ระดับ 6-7% ต่อปี ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทมีสาขาทั้งหมดจำนวน 51 สาขา โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 มีแผนจะเปิดให้บริการใหม่เพิ่มอีกจำนวน 4 สาขา แบ่งเป็น ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 3 สาขา และจังหวัดเชียงราย 1 สาขา

ด้านแผนการดำเนินงาน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2569-2571) บริษัทตั้งเป้าหมายสร้างยอดขายรวมเติบโตแตะระดับ 4,000 ล้านบาท และมีแผนการขยายสาขาครบจำนวน 80 สาขา โดยมีแผนการขยายสาขาเฉลี่ยประมาณ 10 สาขาต่อปี ซึ่งครอบคลุมทั้งพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา และจังหวัดอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ

บล.กรุงศรี ระบุว่า มองบวกต่อนโยบายรัฐที่มีโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่ง ซึ่งมอง TNP เป็นผู้มีโอกาสรับประโยชน์โดยตรง จากเป็นร้านค้าท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการในครั้งก่อนช่วยเพิ่มองค์ประกอบการเติบโตด้านการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ปัจจุบันยังติดลบ ขณะที่องค์ประกอบการเติบโตอื่น เช่น การเปิดสาขาใหม่ การเพิ่มมาร์จิ้นยังทำงานได้ดี

โดยรวมคงกำไรปี 2568 ไว้ที่ 190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% มองเป็นหุ้นอิงบริโภคที่มั่นคง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมี Catalyst จากโครงการนี้ รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น และแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นก่อนเลือกตั้ง ซึ่งจะตรงกับช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 4/2568

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น TNP ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 12.45 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 16.74 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด อย่างไรก็ตาม ถ้าดู P/BV ที่ระดับ 1.98 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.22 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 4.03 บาท จากราคาต่ำสุด 4.00 บาท และราคาสูงสุด 4.10 บาท

Back to top button