
กล้าในวันเลือดสาด
วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องออกมาย้ำเรื่องหุ้นไทยมีค่าตัวที่ถูกเกินไปจริง ๆ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปค่า PE กับอัตราเงินปันผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน
วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องออกมาย้ำเรื่องหุ้นไทยมีค่าตัวที่ถูกเกินไปจริง ๆ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปค่า PE กับอัตราเงินปันผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่นักลงทุนสถาบันกลับไม่แยแสสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยสักเท่าไหร่? อีฉันเลยต้องออกมาบิ้วอารมณ์ของนักลงทุนให้มีส่วนร่วมกับตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะเห็นกันชัด ๆ ว่า ความเสี่ยงในการลงทุนไม่สูงเหมือนก่อนหน้านี้จ้า!
งานนี้ขึ้นอยู่กับนักลงทุนมองเรื่องราวที่ “โมนิก้า” เล่าให้ฟังวันก่อนน่าเชื่อถือไหม? ไล่ตั้งแต่สัญญาณเทคนิคที่บอกให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยเข้าเขตขายมากเกินไป ถัดมาเป็นเรื่องของกำไรไตรมาส 3 ที่ยังดูดี และในไตรมาส 4 น่าจะกลับมาโตอีกครั้ง หรือแม้กระทั่งเรื่องรัฐบาลอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ช่วงปลายปีเป็นจังหวะของการเก็บหุ้นปันผล พร้อมกันนั้นก็ลุ้นเงินไหลเข้าเมื่อเริ่มต้นปีใหม่นะจ๊ะ
ฉะนั้นการที่ดัชนีทิ้งตัวลงไป 10 จุดตั้งแต่เปิดเทรด และพยายามตีกลับเพื่อทำให้การติดลบแคบลง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,270.04 จุด ลบไป 10.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายิ 2.93 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มเข้ามาเก็บหุ้นเป็นช่วง ๆ ผนวกกับวันก่อนดัชนีอ่อนตัวจนหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,265 จุด แต่สุดท้ายสามารถกลับขึ้นมาได้ในวันเดียวกันแบบนี้..ของเขาดีจริงใช่ม๊า!
คล้ายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ WHA ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เจ๊จูน” ซึ่งก่อนหน้านี้กังวลกันว่า ยอดขายอาจไม่ปัง..ตัวเลขกำไรอาจไม่มา จึงทำให้หุ้นร่วงจาก 3.70 บาท ลงมาทำโลว์บริเวณ 3.10 บาท แต่สุดท้ายผลงานก็ออกมาตามเป้าที่ตั้งไว้ หุ้นเลยขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.20 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 236 ล้านบาทแบบนี้..อีฉันเลยนึกถึงคำพูดของเจ๊ที่ว่า ไทยยังเป็นหมุดหมายของการตั้งโรงงานขึ้นมาทันทีเจ้าค่ะ
อีกรายที่ “โมนิก้า” นึกถึงขึ้นมาเช่นกันคือ TURBO เพราะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ทำผลงานไตรมาส 3 ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สถานการณ์ราคาหุ้นในกระดานกลับยอดแย่แบบนี้ อีฉันย่อมมองการยืนปิดที่ระดับ 1.57 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 10 เท่าเป็นระดับที่น่าลงทุนสุด ๆ เพราะเป็นที่รับรู้กันมาตลอดว่า ธุรกิจจำนำทะเบียนยังโตได้อีกก็เท่านั้นเองค่ะ
ส่วนรายที่นักเล่นกลัวผลงานไตรมาส 3 อาจชะลอตัว จึงพากันขายหุ้น PLANB ออกมาเรื่อย ๆ จนหุ้นลงมาทดสอบแนวรับ 4 บาท 3 ครั้งในรอบเดือนกว่า ๆ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในภาวะตลาดหุ้นขาดข่าวดีใหม่ ๆ แต่ทันทีที่บริษัทประกาศกำไรออกมาดีเหมือนเดิม หุ้นก็วิ่งกลับขึ้นมาเรื่อย ๆ ก่อนจะปิดที่ 4.40 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 211 ล้านบาท ทำให้การกลับไปยืนฐานเดิม 5 บาท ไม่ใช่เรื่องยากกระมัง!
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงน้องจูบหอม KISS ขึ้นมาเช่นกัน เพราะหุ้นถูกกดดันจากความกังวลเรื่องงบไตรมาส 3 อาจไม่ดี แต่สุดท้ายผลงานก็ออกมาในเกณฑ์ที่รับได้ จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 พร้อมกับดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.02 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 10 เท่า และยังเป็นหุ้นที่ปันผลดีในระดับที่เกิน 3% แบบนี้..ชอบกันไหมเอ่ย?
สถานการณ์ข้างต้นทำให้อีฉันต้องเอ่ยถึงม้านอกสายตาอย่าง PIS เพื่อชี้ให้เห็นราคาหุ้น ณ ปัจจุบันไม่สะท้อนความจริง เพราะเมื่อดูกำไรที่โตทุกไตรมาส จนวันนี้กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.44 บาท แต่ราคาหุ้นกลับอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 3.38 บาทเฉยเลย หรือมองในมุมของ PE ที่อยู่แค่ระดับ 7 เท่า ก็เป็นเรื่องที่อีฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นตัวนี้!..ใครรู้ช่วยตอบหน่อยค่ะ
โมนิก้าและทีมงาน