
TIDLOR ดีเดย์ดิวิเดนด์สต๊อก.!
ด้วยทำธุรกิจ Hire Purchase ทำให้ภาพจำของบริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ในอดีตเป็นหุ้น Growth Stock หรือหุ้นเติบโตสูง
ด้วยทำธุรกิจ Hire Purchase ทำให้ภาพจำของบริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ในอดีตเป็นหุ้น Growth Stock หรือหุ้นเติบโตสูง ไม่ต่างจากบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD…
ประกอบกับโมเดลธุรกิจเป็นการไปกู้เงินมา หรือออกหุ้นกู้แล้วนำไปปล่อยกู้ต่อ เพื่อกินส่วนต่างดอกเบี้ย…การจะเอาเงินสดมาจ่ายเงินปันผลจึงไม่ใช่แนวทางปฏิบัติของหุ้นกลุ่มนี้..!? แต่จะเน้นแคปปิตอลเกนแทน
พอมาตอนนี้ TIDLOR มีการอัพสถานะขึ้นเป็น “โฮลดิ้งส์ คอมพานี” เต็มตัว สิ่งที่จะตอบแทนผู้ถือหุ้นได้ คงหนีไม่พ้นการจ่ายเงินปันผลแหละ..!! จากเดิมเป็นหุ้นGrowth Stock ปันผลน้อย ต่อไปก็จะเข้าสู่โหมดหุ้น Dividend stock ปันผลสูงแทนแล้วล่ะ..!!
ถ้านึกภาพไม่ออก ให้ย้อนไปดูหุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในอดีตก่อนที่จะถูกบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กลืนกิน…ตอนนั้น INTUCH จัดเป็นหุ้นปันผลสูงสม่ำเสมอ เรียกว่าได้กำไรมาเท่าไหร่…ควักจ่ายปันผลมากกว่ากำไรที่ได้เสียอีก ทำเอาผู้ถือหุ้นอู้ฟู่ไปตาม ๆ กัน
โอเค…TIDLOR อาจจะไม่เหมือน INTUCH เสียทีเดียว แต่คงมีความละม้ายคล้ายคลึง จะเป็นหุ้นปันผลสูงสม่ำเสมอแทน…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ
เลยเป็นที่มาของการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2568 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 34 สตางค์ รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 984.62 ล้านบาท คิดเป็น Dividend Payout Ratio ที่ 93.79% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ
โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XDในวันที่ 8 ธ.ค. 2568 และเตรียมรับเงินเข้ากระเป๋าในวันที่ 15 ธ.ค. 2568 นี้
แหม๊…ประกาศจ่ายเงินปันผลแบบจุก ๆ ซะขนาดนี้ ก็ทำให้ผู้ถือหุ้นเริงร่านะสิ…
โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างธนาคารกรุงศรี ที่จะได้เงินไปกินขนมราว 297.19 ล้านบาท ฟาก SIAM ASIA CREDIT ACCESS PTE. LTD. ผู้ถือหุ้นอันดับสองได้เงินไปราว 160.79 ล้านบาท
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นหุ้นดิวิเดนด์สต๊อกหลังจากขึ้นเป็นโฮลดิ้งส์ คอมพานี ก็ว่าได้…
วานนี้ (26 พ.ย. 2568) เลยเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้น TIDLOR กันอย่างคึกคัก ส่งผลให้ระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปแตะที่ระดับสูงสุด 19.40 บาท ก่อนจะถูกขายทำกำไรออกมา และปิดตลาดที่ 18.40 บาท ปรับลดลง 2.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 243.62 ล้านบาท
จะว่าไปนับตั้งแต่ TIDLOR มีการปรับโครงสร้างใหม่ขึ้นเป็นโฮลดิ้งส์ คอมพานี ก็มีพัฒนาการที่น่าสนใจนะ โดยเฉพาะในแง่ของผลประกอบการ จากเมื่อก่อนมีรายได้ราว 15,000-18,000 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ระดับ 3,000 ล้านบาทเศษ แต่ล่าสุดงวด 9 เดือนของปี 2568 มีรายได้รวมกว่า 17,323 บาท และมีกำไรสุทธิปาไป 3,900 ล้านบาทแล้ว
งั้นถ้าไม่สะดุดขาตัวเองไปซะก่อน ปิดงวดสิ้นปีนี้น่าจะเห็นผลงานเติบโตกว่าปี 2567 ที่มีรายได้รวม 22,130 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4,230 ล้านบาท นะจิบอกให้
ถ้าผลประกอบการปัง…การจ่ายเงินปันผลก็น่าจะปังด้วยป๊ะเนี่ย..??
ส่วนถามว่า TIDLOR จะจ่ายเงินปันผลอีกเท่าไหร่..?? และเมื่อไหร่..?? ไม่รู้ ๆๆ
แต่ที่รู้คาแรคเตอร์หุ้น TIDLOR จะเปลี๋ยนไป๊ อาจไม่เหมาะกับสายเก็ง (กำไร) แล้วล่ะ แต่น่าจะเหมาะกับสายเก็บ (รับปันผล) มากกว่า…
เอาเป็นว่า ใครสนใครซื้อก็ซื้อ…ใครใคร่ขายก็ขาย
เลือกที่ชอบละกัน…
…อิ อิ อิ…