ทำไมราคาหุ้น GULF ลง

หุ้น GULF ราคาร่วงลงมาต่ำกว่า 40.00 บาท อีกครั้ง ซึ่งวานนี้ปิดตลาดที่ 39.75 บาท ยิ่งหากย้อนกลับไปดูกราฟย้อนหลัง 3 เดือนค่อนข้างน่าตกใจ


หุ้น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ราคาร่วงลงมาต่ำกว่า 40.00 บาท อีกครั้ง ซึ่งวานนี้ปิดตลาดที่ 39.75 บาท

ยิ่งหากย้อนกลับไปดูกราฟย้อนหลัง 3 เดือนค่อนข้างน่าตกใจ

ราคาหุ้นช่วงต้นเดือนกันยายน 2568 ยังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 47.00-49.00 บาท โดยระดับราคา 49.00 บาท ถือเป็นแนวต้านสำคัญ ที่ถูกวิเคราะห์ว่า หากผ่านแนวต้านนี้ขึ้นมาได้ มีโอกาสที่จะขึ้นมาเล่นเหนือ 50.00 บาทได้

ทว่า สถานการณ์ของราคาหุ้นกัลฟ์ฯ กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ล่าสุดวานนี้ (3 ธ.ค.) ก่อนที่ราคาจะลงมาปิด 39.75 บาท ระหว่างวันราคาพยายามยืนเหนือ 40.00 บาท ขึ้นไปให้ได้ แต่ก็ไม่รอด ทำให้ช่วง 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย. 68) ราคาลดลงมาเกือบ 15%

กัลฟ์ฯ ในช่วงของการควบรวมกับ “อินทัช” ได้ถูกคาดหมายว่าจะเป็นหุ้นบิ๊กแคปที่จะเข้ามามีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทย คล้ายกับกรณีของ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA

3 เมษายน 2568 คือวันที่กัลฟ์ฯ กลับเข้าเทรดในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง (หลังควบรวมกับอินทัช)

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของกัลฟ์ฯ หลังควบรวมอยู่ประมาณ 8.7 แสนล้านบาท ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปรองลงมาจาก เดลต้าฯ และ บมจ.ปตท. (PTT) เท่านั้น

3 เม.ย.68 วันแรกที่กัลฟ์ฯ กลับมาเข้าเทรด ถูกฝากความหวังไว้ค่อนข้างสูงมาก

แต่ความหวัง กับสิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงข้ามกัน

เมื่อราคาหุ้นกัลฟ์หลังกลับเข้าเทรดได้ 2-3 วัน กลับลงตลอด และลงมาลึกสุดที่ 38.50 บาท (8 เม.ย. 68) ทำให้เกิดความงุนงง พร้อมกับการตั้งคำถามจากวงการตลาดทุนว่า “เกิดอะไรขึ้น” กับราคาหุ้นกัลฟ์ฯ

หลังจากนั้น ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาตามลำดับ หรือจากระดับต่ำสุดที่ 38.50 บาท แล้วขึ้นมายังจุดสูงสุดที่ 51.25 บาท (13 พ.ค. 68)

ทำให้ในช่วงเวลาประมาณ 40 วัน ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ดีดขึ้นมากถึง 33.11%

ในช่วงเวลานั้น หุ้นกัลฟ์ฯ ถูกมองว่า ราคาน่าจะกำลังตั้งตัว พร้อมกับเดินไปข้างหน้า ถึงกับมีนักวิเคราะห์บอกว่ามีโอกาสทะลุมาที่ 60.00 บาทได้เลยล่ะ

ที่ไหนได้ ราคาหลังจากขึ้นมาที่ 51.25 บาท กลับลดระดับลงมาเรื่อย ๆ

กระทั่งหลุดแนวรับจิตวิทยาที่ 50.00 บาท

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ยังปรับลงต่อเนื่อง จนมาที่จุดต่ำสุดคือ 37.75 บาท (23 มิ.ย.) หรือหลุดแนวรับที่เป็นจุดต่ำสุดครั้งก่อนหน้า (38.50 บาท) 

หากนับจากวันที่ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ขึ้นมาที่ 51.25 บาท และลงมาที่ 37.75 บาท จะกินเวลาประมณ 40 วันเช่นกัน

ช่วงเวลาดังกล่าวราคาลงมามากถึง 35.76%

จากนั้นราคาหุ้นกัลฟ์ฯ วิ่งขึ้น วิ่งลง ซึ่งหากดูจากกราฟ ถือว่าค่อนข้าง “ผันผวน” อย่างหนัก

ส่วนสาเหตุที่ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ร่วงลงมาล่าสุด ว่ากันว่า อาจจะมาจากรัฐปรับลดค่าไฟฟ้าลงมา ซึ่งอาจจะไปกระทบกับผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า แต่ในมุมมองนักวิเคาะห์มองว่า กัลฟ์ฯ ได้รับผลกระทบไม่มากนัก หรืออาจจะน้อยสุดเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าแห่งอื่น ๆ

มีโบรกเกอร์ประมาณ 14-15 แห่งที่ทำบทวิเคราะห์หุ้นกัลฟ์ฯ ไว้

ทุกแห่งต่างมองเชิงบวก และประเมินอัตรากำไรสุทธิไตรมาส 4/68 ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น โดยทุกโบรกเกอร์ต่างแนะนำ “ซื้อ” ไม่มีแห่งไหนแนะนำขาย

ราคาเป้าหมายต่ำสุดคือ 55.00 บาท

และราคาสูงสุดอยู่ที่ 76.50 บาท

ส่วนราคาเฉลี่ยหรือ IAA Consensus จะอยู่ที่ 63.25 บาท

ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ที่ปรับลงมาปิด 39.75 บาท ทำให้มาร์เก็ตแคปที่เคยอยู่กว่า 8.7 แสนล้านบาท ลงมาที่ 6 แสนล้านบาท

ผลประกอบการไตรมาส 3/68 ที่ออกมาดี มีกำไรสุทธิ 7.3 พันล้านบาท แล้วแนวโน้มไตรมาส 4/68 ถูกมองว่า กำไรจะเพิ่มขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า เช่นเดียวกับปี 2569 กำไรของกัลฟ์ฯ ยังคงถูกวิเคราะห์พุ่งทะยานต่อไป ซึ่งสวนทางกับราคาหุ้นที่ลงมา

ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ เหมือนไปตอบรับกับผลประกอบการที่ออกมา และแนวโน้มข้างหน้า

ตรงกันข้ามกับที่หุ้นกัลฟ์ฯ เข้าไปลงทุนในธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK แต่หุ้น KBANK กลับวิ่งขึ้นสนุกสนาน หรือกรณี “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ผู้ถือหุ้นใหญ่ของกัลฟ์ฯ เข้าซื้อหุ้นธนาคารกรุงไทย (KTB) ก็ทำให้ราคาหุ้น KTB วิ่งฉิวเช่นกัน

เกิดอะไรขึ้นกับราคาหุ้นกัลฟ์ฯ

Back to top button