หมอแสบจอมหักหลัง?

สิ่งที่อีฉันได้รับรู้ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ ความคิดของนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นไปในทางลบ แถมไม่สนใจมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นที่รัฐบาลเข็นออกมาเป็นชุด


สิ่งที่อีฉันได้รับรู้ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ ความคิดของนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นไปในทางลบ แถมไม่สนใจมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นที่รัฐบาลเข็นออกมาเป็นชุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่อยากจะเชื่อว่า มาตรการ TISA  ที่มีทั้งเรื่องลดหย่อนภาษีเพิ่ม และยกเว้นภาษีจากเงินปันผล รวมทั้งเป็นการสร้างวินัยในการออมจะถูกมองข้ามไงล่ะคะ

ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกกังวลมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะนักลงทุนไม่ได้มองการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวเป็นหลัก แต่เลือกมองการเล่นหุ้นแบบเดย์เทรดเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งทำให้อีฉันรู้ได้ทันทีว่า แนวทางสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ของ ก.ล.ต. และ ตลท. ไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร แต่ยังต้องปลูกฝั่งแนวคิดลงทุนยั่งยืนต่อไปแบบนี้..โลกไม่เหมือนกับสิ่งที่เห็นนะเจ้านาย

ที่น่าสนใจคือ ทุกวันนี้ตัวขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยจริง ๆ กลายเป็น DELTA เพียงตัวเดียว และถ้ามองในมุมเดียวกันจะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่ทำผลงานได้ดี และมีการจ่ายปันผลระดับสูง แต่หุ้นดังกล่าวกลับมีเปอร์เซ็นต์ปรับตัวลงมากกว่าปันผล ซึ่งกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้นักลงทุนไม่อยากช้อนหุ้นเมื่อลงมากเรื่อย ๆ เพราะคิดว่า ยังมีราคาถูกกว่าให้ซื้ออีก และไปซื้อก่อนวัน XD มีความเสี่ยงต่ำ (หุ้นลงมาสุดแล้ว) เจ้าค่ะ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้การยืนปิดที่ระดับ 1,269.87 จุด บวกไป 8.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.58 หมื่นล้านบาท กลายเป็นภาพลวงตาในความคิดของนักลงทุนส่วนใหญ่ เพราะหุ้นแถวสองแถวสามไม่มีใครเหลียวแล และหากจะเล่นหุ้นแค่ไม่กี่ตัวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็อย่าหวังจะได้เห็นหุ้นไทยขึ้นอย่างมั่นคง เนื่องจากภาพพเหตุการณ์ตรงนี้เคยเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยมาแล้ว 3 ครั้งในรอบ 3 เดือนครึ่ง (1,250-1,300 จุด) นะนายจ๋า!

ไหน ๆ บรรยากาศการลงทุนก็ไม่เป็นใจ “โมนิก้า” ขอเม้าท์เรื่องสนิมเนื้อในที่เกิดขึ้นกับหุ้นเสริมความงามกันดีกว่า เพราะข่าวที่พวกแมงโม้เม้าท์กันสนุกสนานเข้าชี้เป้าไปยังที่หมอ.น ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำงานแบบเต็มร้อยกับ หมอ.ส ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเสริมความงามเจ้าดัง แต่ด้วย “วันเวลา” ที่ทำให้ใจคนเปลี่ยน และถูกล่อใจด้วย “เงินทอง” เลยทำให้หมอคนดังกล่าวหักหลังคนที่เคยอุ้มชูมาเป็นเวลานานพะยะค่ะ

โดยเรื่องที่เลวร้ายสุด ๆ คือ หมอคนดังกล่าวดันหอบชื่อลูกค้าโรงพยาบาลไปให้คลินิกแห่งหนึ่งที่เป็นคู่แข่งหน้าตาเฉย ต่อจากนั้นขอลาออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับสร้างเรื่องในลักษณะขอไปจัดการเรื่องส่วนตัว แต่สุดท้ายดันไปปรากฏตัวเป็นผู้บริหารคลินิกคู่แข่งแบบไร้ยาง และในเวลาเดียวกันแอบดึงตัวบรรดา “หมอ” และ “พยาบาล” จากโรงพยาบาลไป 10 กว่าคนเสียอย่างนั้น!

ความเลวทรามไม่จบเพียงแค่นั้น!..เนื่องจากหมอ.น ดันสวมบทคนดีขึ้นมากะทันหัน และแอบไปแจ้งหน่วยงานรัฐให้เข้ามาตรวจสอบการก่อสร้างโรงพยาบาลผิดแบบ แต่ผลการตรวจสอบที่ออกมากลับพบว่า การก่อสร้างถูกต้องหมด! จึงทำให้หมอ.สเปิดปฏิบัติการฟ้องศาลเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นการกระชากหน้ากากพรรคพวกหมอจอมหักหลังให้สังคมได้เห็นธาตุแท้แบบนี้..มันพะยะค่ะ

เนื่องจากค่าเสียหายที่มีการฟ้องร้องหมอแสบคนดังกล่าวสูงถึง 80 ล้านบาท ส่วนพวกหมอพยาบาลที่ร่วมขบวนการกว่าสิบคน ก็โดนฟ้องกราวรูดเหมือนกัน ซึ่งมีบางคนขอเจรจาพร้อมกับเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องฉาวดังกล่าว ซึ่งหมอ.ส ก็ใจนักเลงมากพอ และให้โอกาสคนที่ออกมาพูดความจริงกับตัวเอง “โมนิก้า” ถึงเชื่อเหลือเกินว่า ในไม่ช้าสังคมก็จะได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่..อิอิอิ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button