วิ่งหาหุ้นหลบภัย

หลังจากรัฐบาล “เสี่ยหนู” ประกาศยุบสภาก็ทำให้โครงการ “คนละครึ่งพลัสเฟส2” และ “TISA” รวมถึงโครงการอื่น ๆ แท้งทันที!


หลังจากรัฐบาล “เสี่ยหนู” ประกาศยุบสภาก็ทำให้โครงการ “คนละครึ่งพลัสเฟส2” และ “TISA” รวมถึงโครงการอื่น ๆ แท้งทันที! พร้อมกันนั้นก็มีเสียงพึมพำจากพรรคส้มถูกหักหลังออกมาไม่ขาดสายแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องการเมืองที่แต่ละฝั่งต้องคิดกันเองว่า เชื่อแบบไหน? แถมอีฉันเองก็เห็นเรื่องพรรค์นี้มาเป็นเวลานานว่า แต่ละฝั่งมักเอาดีเข้าตัวเองเป็นประจำเจ้าค่ะ

เหมือนกับการลงทุนในตลาดหุ้นที่ออกอาการตุปัดตุเป๋ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” คิดหนักจนผมแทบจะหงอกหมดหัว เพราะภาพของตลาดหุ้นเปลี่ยนไวเหลือเกิน แถมบางครั้งก็ไม่เด้งรับข่าวดีเหมือนที่คาดหวัง ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทำให้กังวลใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,254.10 จุด บวกไป 0.56 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.66 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการประคองตัวให้พ้นไปวัน ๆ กระมัง

ด้วยเหตุนี้ถึงต้องเฟ้นหาหุ้นที่ยังปรับตัวขึ้นไม่มาก และยังมีข่าวดีคอยซัพพอร์ตเป็นระยะ เพราะถือเป็นหุ้นทางเลือกที่น่าจะทำให้แฟนคลับเทรดสั้น ๆ ในระหว่างที่รอความชัดเจนในหลายเรื่อง ขณะเดียวกันก็มีเรื่องหุ้นที่พัวพันกับสแกมเมอร์เริ่มมีการโยกหุ้นให้เป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง “โมนิก้า” เลยคิดว่า สัปดาห์นี้การเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยคงไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ เพราะพล็อตเรื่องยังไม่มีอะไรใหม่นะซี

เหมือนกับการขยับตัวของหุ้นโรงหมอ BDMS อาจทำใหนักเล่นมีลุ้นมากขึ้นกว่าเดิมก็จริง หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่บริเวณ 20.10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนเหนือแนวต้านเก่า 20 บาทเป็นครั้งที่ 2 ผนวกกับราคาเฉลี่ยของเป้าหมายอยู่ที่บริเวณ 28 บาท จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเล่นตามน้ำ และที่สำคัญคือ มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แล้วค่ะ

ส่วนรายที่เพิ่งจะเริ่มขึ้นเป็นวันแรกอย่าง MTC ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชอบของดีราคาถูก และถ้ามองเรื่องลดดอกเบี้ยเข้ามาเป็นตัวแปรเสริม ก็ทำให้เชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 34.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 559 ล้านบาท มีความเสี่ยงต่ำในการเล่นรอบ หรือมองให้ชัดเข้าไปอีกนิดหนึ่งก็คือ โบรกเกอร์ให้ราคาเป้ากลาง ๆ อยู่ที่ระดับ 45 บาทแบบนี้..น่าเล่นไหมล่ะคะ

เช่นเดียวกับในรายของ CPN ก็เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ “โมนิก้า” ชอบดูเป็นประจำในเวลาที่หุ้นแถวหน้าของไทยเริ่มออกอาการอืด ผนวกกับการยืนปิดที่ระดับ 54 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 136 ล้านบาทเป็นการเทรดบน PE 13 เท่า ผสานกับใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นไม่เคยหลุดแนวรับ 52 บาท รวมทั้งจังหวะนี้เป็นไฮซีซั่นที่มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น อีฉันเลยมองว่า นี่เป็นหุ้นที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามก็เท่านั้นเองค่ะ

ส่วนรายที่เด้งขึ้นแรงจนทำให้อีฉันแปลกใจต้องยกให้ LH เพราะภาพที่ทุกคนจำฝังหัวก็คือ ธุรกิจอสังหาฯ กำลังอยู่ในช่วงถดถอย แต่หุ้นรายนี้กลับพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.66 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 235 ล้านบาท อีฉันเลยมองว่า นี่เป็นการเด้งกลับช่วงสั้น ๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หรืออีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องโอนบ้านเยอะกว่าทุกไตรมาสนะตัวเอง

ปิดท้ายกันที่ปริศนาบิ๊กล็อตของหุ้น VGIF ที่โยนออกมามากถึง 2 พันล้านหุ้นที่ราคา 1 บาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะอยากรู้กันเหลือเกินว่า ใครโยน? เพราะถ้าไล่ชื่อก็มีเพียงผู้ถือหุ้นใหญ่ 4 คนแรกที่ถือหุ้นเยอะ ซึ่งเริ่มจาก บีทีเอส-CAISI SUK ALLEYOPUS และสถานการณ์ตรงนี้กลายเป็นเผือกร้อนที่ทำให้แต่ละคนจินตนาการไปต่าง ๆ นะจะบอกให้

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button