กนง.ลดดอกเบี้ย..ส่งท้ายปี.!?

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ (17 ธ.ค.) ถือเป็นการประชุมครั้งส่งท้ายปี 2568 มีการประเมินว่า กนง.จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลงมาอยู่ที่ 1.25%


การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ (17 ธ.ค.) ถือเป็นการประชุมครั้งส่งท้ายปี 2568 มีการประเมินว่า กนง.จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลงมาอยู่ที่ 1.25% ด้วยเงื่อนไขจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงลง โดยไตรมาส 4/68 จะขยายตัวเพียง 0.8% (เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน) แม้รอดพ้นภาวะถดถอยทางเทคนิคได้ก็ตาม

“การส่งออก” ที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังจากการเร่งส่งออกสูงช่วงก่อนหน้า ประกอบกับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ มีมากขึ้น ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่า 8% (นับตั้งแต่ต้นปี) กลายเป็นแรงกดดันมากขึ้น

เท่านั้นไม่พอยังเกิดภาวะแทรกซ้อนทางเศรฐกิจ จากผลกระทบเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้, ความตึงเครียดชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่สำคัญการยุบสภาส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/69 เนื่องจากนโยบายการคลังไม่สามารถเดินหน้าได้เต็มที่ช่วงการเลือกตั้ง..!!

สอดคล้อง “ตลาดการเงิน” ช่วงสัปดาห์นี้ ที่มีการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายปี 2568 ของธนาคารกลางชั้นนำของโลก 3 แห่ง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จัดการประชุมตรงกันวันที่ 18 ธ.ค. 68 ถัดจากนั้นธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จัดการประชุมวันที่ 19 ธ.ค. 68

มีการประเมินกันว่า ธนาคารกลางทั้ง 3 แห่ง จะมีการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ย “แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง” จากการประชุมรอบนี้ โดย ECB จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.15% ส่วน BOE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 3.75% จากปัจจัยหลักเรื่องเงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ BOJ จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.50% หลังภาคเอกชนของญี่ปุ่น เตรียมปรับขึ้นค่าจ้างช่วงปีงบการเงิน 2569

วันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติ 9-3 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75%

โดยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ช่วงปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ช่วงปี 2570

อย่างไรก็ดีมีการประเมินว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยปี 2569 ลงมากกว่า Dot Plot เนื่องจากเฟดได้รับข้อมูลเศรษฐกิจที่จำกัด อันเนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) นอกจากนี้ “เจอโรม พาวเวลล์” จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดช่วงเดือนพ.ค. 69

มีการคาดการณ์ว่า “เควิน แฮสเซตต์” ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสได้รับเลือกเป็นประธานเฟดคนใหม่ อาจมีผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ช่วงครึ่งหลังปี 2569 เนื่องจาก “แฮสเซตต์” สนับสนุนการ “ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก” ตลอดช่วงที่ผ่านมา..

Back to top button