สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ และน่าจะเป็นอยู่แบบนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2568 หรือลากยาวไปจนต้นปี 2569 โน่นเลย เพราะหันซ้าย หันขวา แลไปข้างหน้า ยังมองหาปัจจัยบวกที่จะดึงดัชนีหุ้นไทยให้วิ่งทะยานขึ้นสูงยังไม่ได้เลย และขอฟันธงไปเลยว่า ถึงอย่างไร สิ้นปีนี้ ดัชนีไม่น่าจะปิดเกิน 1,300 จุดแน่นอน คือ ตอนนี้ขอให้ไม่หลุด 1,250 จุด หรือ 1,200 จุด ก็น่าจะพอใจแล้วละ

มูลค่าการซื้อขายที่ลงมาเหลือกว่า 3 หมื่นล้านบาท บวก/ลบเล็กน้อยนั้น สถานการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะในรอบเกือบ 1 ปี มูลค่าซื้อขายก็อยู่เท่านี้มาตั้งนาน ส่วนวอลุ่มที่หากวันไหนขึ้นมาที่ระดับ 5-6 หมื่นล้านบาท อันนั้นถือว่าพิเศษไปแล้ว ส่วนวอลุ่มเทรดที่เคยขึ้นมา 7-8 หมื่นล้านบาท ไม่ต้องไปคาดหวังกันแล้ว และพิจารณาดูแล้ว น่าจะค่อนข้างยากถึงยากที่สุดที่จะให้วอลุ่มขึ้นไปมากขนาดนั้น ท่ามกลางเศรษฐกิจและการเมืองที่โซซัดโซเซไปมา

หุ้นกัลฟ์ฯ GULF แม้ราคาจะไม่ลงมาต่ำกว่า 40.00 บาท แต่จะให้เดินหน้าพุ่งขึ้นไปคงยาก เพราะต้องอาศัยแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันทั้งกองทุนไทย และฟันด์โฟลว์เข้ามาช่วยดัน หรือไล่ราคาขึ้นมา และเข้าใจว่าน่าจะยังไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนี้ ส่วนแนวต้าน 42.50-42.75 บาท เป็นแนวต้านสำคัญ ดูแล้วยังผ่านได้ค่อนข้างยาก ส่วนแนวรับ 40.00 บาท เข้าใจว่าน่าจะเล่นในกรอบราคา 40.00–42.75 บาท ไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ

หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์แม้จะมีการบอกกันว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ล่าสุดที่ลงมา 0.25% แล้วจะไปกระทบกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร หรือ NIM นั้น ตรงนี้มันก็กระทบจริง ๆ นั่นแหละ  แต่อีกด้านหนึ่งคือว่า เมื่อดอกเบี้ยขาลงทำให้ผลตอบแทน เช่น การฝากเงิน หรือพวกฟิกอินคัม มันจะต่ำลง ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินเพื่อไปแสวงหาหุ้นที่มีความมั่นคงมาก ๆ และจ่ายเงินปันผลสูง ซึ่งตอนนี้เท่าที่เรดาร์ตรวจจับได้ มีเพียงกลุ่มธนาคารเท่านั้นจริง ๆ เช่น TTB SCB TISCO KKP KBANK KTB จึงทำให้เงินไหลเข้าหุ้นกลุ่มแบงก์ และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมหุ้นแบงก์วิ่งขึ้นแม้ NIM จะลดลง

ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์ เริ่มถูกขายทำกำไรกันออกมาแล้วทั้ง MTC SAWAD TIDLOR ที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นตอบรับเรื่องดอกเบี้ยขาลง ประกอบกับในปี 2569 ประเมินกันว่า รูมในการปรับดอกเบี้ยลงมานั้น ค่อนข้างมีจำกัด หรือ กนง.อาจจะปรับลงมาได้อย่างมากแค่ 2 ครั้ง หรืออาจจะ 1 ครั้งก็ได้ ทำให้ปัจจัยหนุนกลุ่มไฟแนนซ์มีไม่มากนัก ดังนั้น ราคาหุ้นไฟแนนซ์ต่อไปต้องมาเจาะลึกกันเป็นรายตัวกันล่ะ ว่าใครบริหารต้นทุนได้ดีกว่า การควบคุมคุณภาพสินเชื่อ การจ่ายเงินปันผล ฯลฯ

บัตรกรุงไทย KTC แนวรับสำคัญ 26.50 บาท อย่าให้หลุด เพราะหากหลุด จะมีแนวรับจิตวิทยาที่ระดับ 25.00 บาท ส่วนปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นออกมา น่าจะเกิดการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน หลังจากเข้ามาไล่ซื้อกันก่อนหน้านี้ ส่วนด้านพื้นฐาน เท่าที่สำรวจตรวจสอบ ยังไม่มีอะไรที่จะออกมาเป็นเชิงลบ นักลงทุนที่อยากจะเข้าเก็บเพื่อหวังเงินปันผล น่าจะไปรอที่บริเวณแนวรับถัดไปเลยน่าจะดีกว่า หรือ 25.00 บาท หรืออาจจะทยอยซื้อก็ได้ เพราะปี 2569 ทางผู้บริหารเขาฟันธงออกมาแล้วว่า กำไรสุทธิจะสูงกว่าปี 2568 และปี 2568 สูงกว่าปี 2567 แน่ ๆ

คาเฟอีน