ขายทีไร..เสียวทุกทีโมนิก้าและทีมงาน

* “โมนิก้า” นั่งพิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ไหลพรั่งพรูเข้ามาในตลาดหุ้นทั้งวัน เพื่อนำไปออกแบบการลงทุนในอนาคตควรเป็นเช่นไร และหุ้นกลุ่มไหนควรเน้นหนักลงทุนเหมือนเดิม (เบญจภาคี คือ แบงก์ ไฟแนนซ์ สื่อสาร พลังงาน และอสังหาฯ) หรือแม้กระทั่งควรพิจารณาปรับหุ้นตัวไหนออกจากพอร์ตโดยด่วน ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “เวลา” ล้วนๆ เสื้อผ้าไม่เกี่ยวนะจะบอกให้


* “โมนิก้า” นั่งพิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ไหลพรั่งพรูเข้ามาในตลาดหุ้นทั้งวัน เพื่อนำไปออกแบบการลงทุนในอนาคตควรเป็นเช่นไร และหุ้นกลุ่มไหนควรเน้นหนักลงทุนเหมือนเดิม (เบญจภาคี คือ แบงก์ ไฟแนนซ์ สื่อสาร พลังงาน และอสังหาฯ) หรือแม้กระทั่งควรพิจารณาปรับหุ้นตัวไหนออกจากพอร์ตโดยด่วน ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “เวลา” ล้วนๆ เสื้อผ้าไม่เกี่ยวนะจะบอกให้

*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่ “โมนิก้า” พยายามแนะนำให้นักลงทุน “เล่นสั้นๆ” เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้พอร์ตลงทุนมีความคล่องตัว และยังจะทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถย้ายหุ้นได้ทันกระแส เดี๊ยนถึงค่อนข้างมั่นใจว่า โอกาสที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นยาวๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเมื่อดูการเข้าลงทุนของผู้เล่นสถาบันที่เข้าๆ ออกๆ ย่อมเป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการ “ขึ้นปรู๊ด ลงปร๊าด” นะจะบอกให้

*ถามว่า “โมนิก้า” เอาอะไรมายืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นเหมือนกับที่คิดไว้ เดี๊ยนขอตอบว่า ประสบการณ์ทางด้านสถิติบวกกับสัญญาณทางเทคนิค จึงค่อนข้างมั่นใจว่า การเคลื่อนตัวของดัชนียังเป็นแพทเทิร์นเดิมๆ ไม่มีอะไรต้องวี้ดว้ายกระตู้วู้เหมือนช่วงฮันนีมูน พร้อมกันนี้ก็ขอยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องกัดฟันทนถือหุ้นระยะกลางถึงระยะยาวนะคะ

*เนื่องจากหุ้นแต่ละวันที่เล่นกันทุกวันนี้ มีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ5-8% เป็นส่วนใหญ่ และการที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำหนดจุดผลตอบแทนไว้ที่ระดับ 5% “โมนิก้า” ก็มองเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากที่สุด เพราะในความเป็นจริงไม่มีใครสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำสุด และสามารถขายหุ้นออกในราคาที่สูงสุดได้ เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนมองเรื่องเหล่านี้มากกว่าประเด็นอื่นๆ เจ้าค่ะ

*สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณาต่อมาก็คือ สถานการณ์ลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา!! จึงต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ขนาดหุ้นพลังงานเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นช้ากว่าชาวบ้านชาวช่อง และมีข่าวดีเรื่องราคาน้ำมันดิบที่คาดกันว่า จะขึ้นไปถึง 60 เหรียญต่อบาร์เรล กลับโดนขายอีกรอบ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเสียววาบไปทุกรูขุมขน เพราะหุ้นมีโอกาสลงต่ออีกน่ะสิ

*เช่นเดียวกับในรายของ IVL และ PTTGC หลังจากพิสูจน์ความแข็งแกร่งของแรงซื้อที่หนาแน่นให้ “ผู้ชม ผู้ฟัง ผู้ดู” เป็นที่เรียบร้อย “โมนิก้า” ก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน แต่ที่น่าเสียใจอย่างหนึ่งก็คือ แรงหนุนยังไม่มากเท่าที่ควร จึงเชื่อว่า หุ้นจะต้องพักฐานต่อไปอีกระยหนึ่ง จึงอยากให้นักลงทุนแฟนพันธุ์แท้ หาจังหวะเข้าซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวนะจ๊ะ

*ส่วนที่มีข่าวดีไม่รู้จักจบจักสิ้นก็คือ AOT ราคาหุ้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสันมาระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายก็โดนกดลงไปอีกเป็นประจำ ล่าสุดดูเหมือนว่า ราคาเริ่มผงกหัวขึ้นอีกครั้งในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เดี๊ยนถึงมองการขยับขึ้นเที่ยวนี้จะไปถึง 400 บาท  ซึ่งเป็นยอดเดิมของการขึ้นเที่ยวก่อนเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า รอบนี้มีลุ้นอย่างแน่นอน เพราะหุ้นขึ้นมาปิดที่ 387 บาท บวกไป 1 บาท เท่านั้นเองค่ะ

*ส่วนหุ้นที่เชียร์แล้วไม่รู้สึกผิดหวังก็คือ BIG ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป้าหมายที่ทุกคนรับรู้กันอย่างกว้างขวางก็คือ 4.50 บาทเป็นอย่างต่ำ!!..แต่ล่าสุดราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่  4.08 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.45% ท่ามกลางแรงเทขายที่เบาบางแบบนี้..หุ้นมีโอกาสเด้งกลับขึ้นไปใหม่ เพราะข้อมูลดังกล่าวสื่อให้รู้ว่า เจ้าใหญ่ๆ ไม่ได้โยนหุ้นออกมาน่ะสิ

*ส่วนหุ้นแอบชอบที่ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนลองพิจารณาเป็นพิเศษก่อนหน้านี้อย่างBEAUTYยังคงเป็นหุ้นทีเด็ดสำหรับขาลุยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ราคาหุ้นจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 6.75 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 4.30% ไม่ได้ทำให้เหล่าผู้กล้าจากทั่วสารทิศหวั่นใจแต่อย่างใดแบบนี้ แสดงว่ามีแบ็กหนุนหลังค่อนข้างดี จึงไม่มีใครกล้าแตกแถว..วันนี้ถึงพูดได้ทันทีว่า พักเอาแรงก่อนจะไปต่อเจ้าค่ะ

* เช่นเดียวกับในรายของ AUCT ทุกคนรับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า ครึ่งปีหลังผลงานค่อนข้างแจ่มแจ๋วสุดๆ  แต่ราคาหุ้นกลับอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดลงมายืนอยู่ที่ระดับ 6.90 บาท ลบไป 0.05 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักลงทุนน่าจะหาจังหวะทยอยเก็บหุ้นไว้บ้าง เพราะทุกคนเคยเห็นกันมาแล้วว่า เมื่อผลงานหนุนสุดๆ หุ้นตัวนี้เคยวิ่งระเบิดระเบ้อเพียงใด..จำได้ไหมค่ะ

*บทสรุปของเรื่องในวันนี้ก็คือ “หากนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ตั้งหน้าตั้งตาสลับกันเทขายหุ้นออกมาตลอดเวลา ก็ไม่ควรคาดหวังจะได้เห็นดัชนียืนเหนือระดับ 1,460 จุดอย่างแข็งแกร่ง”..ทราบแล้วเปลี่ยน!!

 

 

Back to top button