APCO ลุยย้ายเข้า SET เม.ย.นี้ มั่นใจกำไรปีนี้โตเด่น!

APCO ปักธงรายได้ปีนี้โต 20% พร้อมรุกขยายตลาดออนไลน์ตปท. หวังรองรับโครงการ APCO 4.0 - เล็งย้ายเข้าซื้อขาย SET เดือนเม.ย.นี้ โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ "ซื้อ" อัพไซด์เพียบ!


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO หลังจากสังเกตุเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) โดยปิดที่ 1.60 บาท ปรับตัวขึ้น 0.03 บาท หรือ 1.91% ด้านมูลค่าซื้อขาย 24.80 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงนั้น คาดว่ามาจากการที่บริษัทคาดการณ์กำไรในปี 60 จะเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น

ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทได้ทำการขยายฐานลูกค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ผ่านช่องทาง Direct Service, TV Marketing, Call Center 1154, BIM Health Center และ Digital Marketing ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรองรับการเดินหน้าโครงการ APCO 4.0 อีกทั้งมีแผนย้ายเข้า SET ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งการย้ายเข้าเทรดใน SET จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และทำให้เพิ่มความเชื่อมั่นในเสถียรภาพบริษัทได้ดีขึ้น นอกจากนี้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 1.89 บาท อยู่ 18.12%

 

โดย นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APCO เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปี 60 เป็นเติบโต 20% หรือ 500 ล้านบาท จากเดิมที่ดาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากบริษัทเน้นการขยายตลาดออนไลน์ในต่างประเทศ โดยจะเริ่มจำหน่ายสินค้าตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มสร้างยอดจัดจำหน่ายได้อย่างชัดเจน ผ่านบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ ACPLUS GLOBAL จำกัด สัดส่วนการถือหุ้น 50:50 ร่วมกับบริษัทที่เชี่ยวชาญทางด้าน Digital Marketing เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แบรนด์ LIV PLUS ในช่องทาง Digital Marketing ทั่วโลก ดังนั้น ปีนี้คาดว่าสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%

สำหรับแผนการดำเนินงานหลักของปีนี้ยังคงมุ่งผลักดันรายได้จากผลิตภัณฑ์ในแผน APCO 4.0 ประกอบด้วย 1.) ผลิตภัณฑ์เพิ่มภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง โดยเน้นที่มะเร็งเต้านม ช่วยการรักษาสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการใช้เคมีและรังสีบำบัด รวมทั้งป้องกันไม่ให้มะเร็งกลับมาเป็นใหม่ในผู้ป่วยที่ตัดเต้านมไปแล้ว

2.) ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มเม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกัน CD4 ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV ได้รวดเร็วกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดโลกและ 3.) ผลิตภัณฑ์สำหรับแก้ไขโรคติดเชื้อดื้อยา ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในปัจจุบัน หากไม่มีการแก้ไขคาดว่าส่งผลถึงจำนวนผู้เสียชีวิตประมาณ 10 ล้านคน ภายในปี 93 นอกจากนี้ยังมีการผลักดันการเพิ่มยอดขายของผลิตภัณฑ์สำหรับข้อเข่าเสื่อม เบาหวาน สายตาเสื่อม สะเก็ดเงิน และอาการผิดปกติอื่นๆ

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมงบลงทุนไว้ 7 ล้านบาท สำหรับการวิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงวัย ร่วมมือกับสถาบันการแพทย์อันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งศึกษาแผนการร่วมทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในเร็วๆ นี้

“สำหรับแผนการตลาดปีนี้ บริษัทเน้นขยายการจัดจำหน่ายหลากหลายมากขึ้น โดยแยกกันอย่างชัดเจนเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ผ่านช่องทาง Direct Service, TV Marketing, Call Center 1154, BIM Health Center และ Digital Marketing ทั้งในและต่างประเทศ ให้รองรับกับการเดินหน้าโครงการ APCO 4.0 ที่พร้อมพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการร่วมมือกับสถาบันการแพทย์อันดับหนึ่งของประเทศเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุเร็วๆนี้” นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม บริษัทคาดว่าจะสามารถย้ายเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดเตรียมและส่งมอบเอกสารให้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของ APCO ทั้งในการขยายฐานผู้ถือหุ้น และผู้บริโภคในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทสนใจที่จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนในต่างประเทศ เพื่อที่จะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 2%

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เออีซี แนะนำ “ซื้อ” APCO ให้ราคาเป้าหมาย 1.89 บาท/หุ้น โดยฝ่ายวิจัยยังชอบศักยภาพเติบโตในระยะยาวของ APCO จากพัฒนาการที่จะดีขึ้นในหลายส่วน ทั้งฐานลูกค้าที่ขยายตัวดีในทุกกลุ่มสินค้า ขณะที่ต้นทุนการขายมีแนวโน้มปรับลดลง หลังมุ่งเน้นช่องทางขาย ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการขายตรง (ค่าใช้จ่ายในการขายต่อยอดขายอยู่ที่ 50-55%) ทั้งการขายผ่าน Call Center และการขายผ่านช่องทางใหม่ อย่าง E-commerce ซึ่งคาดจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/60 นอกจากนี้ยังมีแผนเปิด BIM Healthcare Center ที่มีแพทย์คอยให้คำแนะนำในการใช้สินค้า เพิ่มอีก 1 สาขาในช่วงไตรมาส 1/60 ทำให้คาดปี 2560 บริษัทจะมีกำไรปกติ 135 ล้านบาท โต 29.5% จากปีก่อน ตามประมาณการเดิม

 

ส่วนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ APCO ให้ราคาเป้าหมาย 1.80 บาท/หุ้น โดยผลการดำเนินงานปี 2559 ได้สะท้อนว่าปีที่ยากลำบากของ APCO ได้ผ่านพ้นไปแล้ว อีกทั้งกระแสตอบรับที่ดีจากโครงการ Apco Cancer Moon Shot ก็จะสนับสนุนให้ปี 2560 เข้าสู่โหมดของการเติบโตอีกครั้งได้อย่างมั่นใจ

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button