PTG ข่าวดีดันราคา

ราคาหุ้นค้าปลีกสถานีบริการน้ำมันที่เร่งลงทุนหนักอย่างบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ร่วงชนิดซึมยาวในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา จนนักวิเคราะห์เมินกันเลยทีเดียว เพราะเชียร์ไม่ขึ้น


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ราคาหุ้นค้าปลีกสถานีบริการน้ำมันที่เร่งลงทุนหนักอย่างบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ร่วงชนิดซึมยาวในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา จนนักวิเคราะห์เมินกันเลยทีเดียว เพราะเชียร์ไม่ขึ้น

ยิ่งงบการเงินไตรมาสแรก มีกำไรถดถอยลงเล็กน้อย ยิ่งไปกันใหญ่ จนมีคำถามว่า ราคาที่วิ่งแรงปีก่อนจนเลื่องลือนั้น น่าจะเป็นภาพหลอนมากกว่าของจริง

แต่…สถานการณ์ย่อมเปลี่ยนแปลงได้ ราคาหุ้นก็ไม่แตกต่างกัน… พอได้ข่าวว่า ไตรมาสสองปีนี้ PTG จะเริ่มกลับมากำไรสวยตามปกติอีกครั้ง แม้นักวิเคราะห์จะมองว่า จะกำไรโตค่อนข้างช้า…นักลงทุนขาประจำ ก็รู้สึกมีแรงกระตุ้น เปรียบได้กับ ฉลามได้กลิ่นคาวเลือด กระโจนเข้าใส่ไม่มีรั้งรอ

ราคาหุ้น PTG บวกแรงในวันพฤหัสบดี และศุกร์ที่ผ่านมาต่อเนื่อง 2 วัน ไม่สนใจว่าดัชนี SET จะบวกหรือลบ ขึ้นไปปิดที่ราคา 22.20 บาท รวมแล้ว 2 วันบวกขึ้นไป 14.4% …ไม่ธรรมดาจริงๆ

เหตุผลง่ายนิดเดียว..ความเชื่อมั่น โดยเฉพาะคำพูดของนายพิทักษ์  รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTG ที่ออกมาระบุว่า คาดรายได้และกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 จะดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 2.09 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 181.25 ล้านบาท ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดของปีนี้แล้ว โดยที่ไตรมาสอื่นๆ ก็คงจะไม่มีแบบนี้อีก เพราะค่าการตลาดกลับขึ้นมาอยู่ในระดับปกติ จากช่วงไตรมาส 1/60 ลดลงไปอยู่ที่ 1.69 บาท/ลิตร ประกอบกับปริมาณการขายเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น ยังระบุอีกว่า แนวโน้มผลประกอบการทั้งปียังคงมั่นใจว่ารายได้จะขึ้นไปแตะระดับ 1 แสนล้านบาท ตามปริมาณการขายที่คาดจะเติบโต 30-40% จากปีก่อนอยู่ที่ 2.9 พันล้านลิตร แม้ว่าช่วงไตรมาส 1/60 จะมีผลประกอบการที่ไม่ดีนัก ซึ่งเป็นผลมาจากค่าการตลาดที่ปรับตัวลดลง ซึ่งก็เกิดขึ้นแบบนี้ทุกๆ ปี แต่อาจจะเกิดในไตรมาสอื่น โดยในช่วงไตรมาส 2/60 นี้สัญญาณก็ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของปริมาณการขายและค่าการตลาด เราจึงยังคงเป้าทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ในปีนี้ เติบโตที่ระดับ 50-60% จากปี 59

พูดกันตรงๆ เว้ากันซื่อๆ…เรื่องมันก็ง่ายขึ้น โล่งอกกันไปหลายเปลาะ

นอกจากนั้นดูเหมือนว่ากลยุทธ์ “คั้นมะนาว” ที่เพียรทำมาก็เริ่มผลิดอกออกผลชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดลงทุนในธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ อย่างธุรกิจนอน-ออยล์ (Non-Oil) ที่ตั้งเป้าให้มีสัดส่วนรายได้ให้เพิ่มขึ้นเป็น 60% ภายในปี 5-7 ปีข้างหน้า จากปีนี้ที่คาดจะอยู่ที่เพียง 6-8% นับแต่ ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทั้งในสถานีบริการน้ำมัน และอื่นๆ รวมทั้งการเพิ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องภายใต้แบรนด์ PT Maxnitron หรือการลงทุนโครงการอุตสาหกรรมปาล์ม คอมเพล็กซ์ (Palm Complex) และโครงการศูนย์บริการ และซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก เป็นต้น

เหตุผลอื่นที่สนับสนุนให้เกิดความเชื่อมั่น มาจากการที่ปีนี้ รายได้ส่วนหนึ่งของ PTG มาจากการรับรู้ผลตอบแทนของเงินลงทุนในบริษัทลูกที่ทำธุรกิจขนส่ง หรือ โลจิสติกส์ ซึ่งตัวเลขล่าสุดกำลังมาแรงอย่าง บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ที่แม้จะเล็ก แต่กำไรโตวันโตคืน โดยปีนี้รายได้ของ AMA จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ 973.81 ล้านบาท ทั้งจากขนาดของกองเรือที่เพิ่มขึ้น และขนาดกองรถที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นเป็นรูปธรรมจากแนวโน้มในช่วงไตรมาส 1 ผลประกอบการในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิก้าวกระโดดชวนตะลึงกว่า 100% ทีเดียว แถมยังมีแนวโน้มว่า ในช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบการจะโตมากเป็นพิเศษ

มีลูกดี แม่ก็ยิ้ม เพราะแค่รับปันผลลูก ก็ทำให้อัตรากำไรสุทธิที่ต่ำของ PTG ดีขึ้นทันตา…ไม่ต้องเหนื่อยเท่าเดิม

การเติบโตแบบกระจายตัวของ PTG เพื่อสร้างฐานรายได้จากหลายแหล่งนี้ ยังไม่เกิดผลทั้งหมด แต่ความมุ่งมั่นที่สอดรับอย่างเป็นระบบกับแผนธุรกิจที่มียุทธศาสตร์เชิงคุณภาพ (โดยไม่ทิ้งการเติบโตเชิงปริมาณของเดิมอย่างสถานีบริการน้ำมันที่ปัจจุบันมีกว่า 1,400 สาขา และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 1,800 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้ ขึ้นชั้นเป็นหมายเลข 1 ของผู้ให้บริการทั่วประเทศในด้านจำนวนสถานีบริการ เพื่อเก็บเกี่ยวดอกผลการลงทุนขยายสถานีบริหารน้ำมันมาต่อเนื่อง แล้วผ่านการเก็บรายละเอียดมารอบคอบ จะทำให้อัตรากำไรสุทธิของ PTG ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ดู “ขี้เหร่” เพราะต่ำกว่า 3% เหมือนในอดีตและปัจจุบัน …ซึ่งเข้าข่าย ยิ่งโตมาก ยิ่งเหนื่อยมาก

ผลลัพธ์ท้ายสุด แม้จะไม่มีใครบอกก็คือ ค่าพี/อีของราคาหุ้น PTG ที่เคยสูงลิ่ว จะลดลงเพราะกำไรต่อหุ้นที่ดีขึ้นนั่นเอง

มิน่า…พอหุ้นขยับตัวเท่านั้น  นักวิเคราะห์ “ขาเชียร์” จึงออกมาพูดกันหน้าตาเฉยว่า จากนี้ไปสัญญาณชี้นำ หรือ Indicator ต่างๆ กำลังเริ่มส่งสัญญาณ Bullish Divergence ให้เห็นบ้างเหมือนกัน…ไวกว่ากามนิตหนุ่ม กันเลยทีเดียว

ธีมธุรกิจของ PTG ที่มีชื่อว่า “Age of Innovation” เพื่อสร้างแบรนด์ด้วยนวัตกรรม จะเป็นจริงหรือไม่…แมงเม่าไม่สนใจหรอก….นามจะไพเราะเพาะพริ้งแค่ไหน แต่ถ้าราคาหุ้นร่วง ก็ไลฟ์บอย

“อิ อิ อิ”

Back to top button