ECL ฉายแววเด่น! สินเชื่อพุ่งกระฉูด ลุ้นกำไร Q2 โตแกร่ง

ECL ฉายแววเด่น! สินเชื่อพุ่งกระฉูดหนุนกำไร Q2 โตแกร่ง ด้าน โบรกฯ ปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มเป็น 128 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 25 ล้านบาท หรือโตกว่า 4 เท่าตัว


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง 2 วันติด นับตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.60 ขณะที่วานนี้ (1 ส.ค.) ปิดตลาดที่ 3.24 บาท บวก 0.26 บาท หรือ 8.72% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 77.58 ล้านบาท นอกจากนี้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 4.07 บาท อยู่ 25.62%

โดยนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรปีนี้ของ ECL เพิ่มขึ้น หลังแนวโน้มสินเชื่อเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งศูนย์ซ่อมรถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “FIXMAN” ที่เริ่มเปิดบริการเมื่อเดือนก.ค.60 และเตรียมจะขยายสาขาเพิ่มขึ้น โดย ECL ตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 50 สาขา ภายในปี 63 จะช่วยหนุนให้กำไรของ ECL เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ ECL ให้ราคาเป้าหมายที่ 4.07 บาทต่อหุ้น คาดว่ากำไรปี 60 จะอยู่ที่ 96 ล้านบาท จากปี 59 ที่ 25 ล้านบาท หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้ที่ 4.5 พันล้านบาท โต 55% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอุปสงค์สินเชื่อซื้อบิ๊กไบค์มือสองที่โตต่อเนื่องอีกทั้งครึ่งปีหลังเตรียมเปิดธุรกิจใหม่ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์มือสองก่อนซื้อและรับประกันดูแลซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 1.7%

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ ECL เพื่อลงทุนระยะยาว ให้ราคาเป้าหมาย 4 บาทต่อหุ้น อิง P/E 25 เท่า(PEG =0.9 เท่า) ด้วยแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ออกมาดีกว่าคาดจากธุรกิจสินเชื่อและการเติบโตของกำไรเฉลี่ย(CAGR) ระหว่างปี 60-62 ถึง 28% แม้อาจเกิด Dilution effect จากการใช้สิทธิ ECL-W2 ในปี 61 ทว่าผลกระทบดังกล่าวจะถูกดูดซับโดยการเติบโตของกำไรที่ขยายตัว มอง ECL เป็น Growth stock จากเดิมที่เป็นบริษัท Leasing ขนาดเล็กสู่ขนาดกลางที่จะเปลี่ยนรูปแบบมาให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร (One-Stop Service)

ทั้งนี้คาดผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2/60 คาดสินเชื่อยังเติบโตได้ตามเป้าที่เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้พอร์ตสินเชื่อสุทธิมาอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท โต 19% ไตรมาสก่อนและโต 60%YTD โดยเฉพาะจาก Big bike แบรนด์ญี่ปุ่นที่มียอดจัดสินเชื่อราว 2-3 แสนบาท/คัน

ขณะที่ Yield มากกว่า 10% และมี NPL ต่ำ ปัจจุบันมีสัดส่วนถึงร้อยละ 33 ของสินเชื่อรวม ขณะที่ NPL ที่คาดจะยังคงต่ำกว่า 4% ดังเช่นในไตรมาส 1/60 และคาด Net Interest Margin ทรงตัวเท่ากับ 6.2%

โดยคาดว่ากำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/60 อยู่ที่ 31 ล้านบาท แม้ทรงตัวเทียบไตรมาสก่อน แต่จะเป็นการพลิกมีกำไรเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาส 2/59 บริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษสำรองกรณีเพิ่มทุน (PP) ราคาต่ำกว่าราคาตลาด จำนวน 42.75 ล้านบาท ทว่าหากเทียบเฉพาะกำไรปกติยังเติบโตถึง 118% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้หากพิจารณาพอร์ตสินเชื่อในครึ่งปีแรกคาดอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท ดีกว่าที่เคยคาดไว้เพียง 3.2 พันล้านบาท (แบบอนุรักษ์นิยมที่ 100 ล้านบาท/เดือนตามข้อมูลในอดีต) เป็นผลมาจากยอดการปล่อยสินเชื่อได้ตามแผนจริงและยอดบางเดือนที่ดีกว่าเป้า (เดือนมี.ค.60 บริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่ถึง 290 ล้านบาท)

ดังนั้นจึงปรับประมาณการขึ้นให้สอดคล้องกับตัวเลขข้างต้นและแผนของบริษัท คาดพอร์ตสินเชื่อสิ้นปี 60 อยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท โต 99% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 มาเป็น 128 ล้านบาท หรือโต 412% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้หากกำไรงวดไตรมาส 2/60 ออกมาตามคาด จะทำให้ครึ่งปีแรกปี 60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 48 ของประมาณการ

นอกจากการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อเดิม ยังมีบริษัทย่อยที่ ECL มีสัดส่วนถือหุ้น 51% คือ EPS ได้เริ่มเปิดศูนย์ซ่อมรถยนต์ครบวงจรสาขาแรก บริเวณเกษตร-นวมินทร์ ในช่วงกลาง ก.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้แบรนด์ “FIXMAN”

โดยนำ Know-how ด้านมาตรฐานการซ่อม จาก PFS ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะรถญี่ปุ่น มาประยุกต์ใช้ และด้วยเงินลงทุนเพียง 3 ล้านบาท/สาขา จึงทำให้ความเสี่ยงที่จะขาดทุนต่ำมาก ตามแผนบริษัทตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 50 สาขา ภายในปี 63 ทั้งในรูปแบบการขยายสาขาด้วยตนเองและเฟรนไชส์ โดยช่วงครึ่งปีหลังปี 60 จะเป็นการทดสอบตลาดและระบบการทำงาน แต่จะเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ ก่อนที่จะมีรายได้เข้ามาอย่างมีนัยในปี 61

 

Back to top button