FSMART ขายหมูตามปกติ

เสี่ยสอง วัชรศรีโรจน์ หายหน้าไปจากการตกเป็นจุดสนใจของวงการหุ้นเมืองไทย หลายปีแล้ว จะด้วยสาเหตุใด ไม่สำคัญ เพราะวันนี้ มีคนชื่อคล้ายกัน ในอีกบทบาทหนึ่งมาแทนที่ไปเรียบร้อยแล้ว....เสี่ยสองคนล่าสุด นายสมชัย สูงสว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

เสี่ยสอง วัชรศรีโรจน์ หายหน้าไปจากการตกเป็นจุดสนใจของวงการหุ้นเมืองไทย หลายปีแล้ว จะด้วยสาเหตุใด ไม่สำคัญ เพราะวันนี้ มีคนชื่อคล้ายกัน ในอีกบทบาทหนึ่งมาแทนที่ไปเรียบร้อยแล้ว….เสี่ยสองคนล่าสุด นายสมชัย สูงสว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART

ราคาหุ้น FSMART ที่ร่วงแรง 25% ในรอบสามสัปดาห์เพราะแรงขายโดยไม่มีเหตุผล ประหนึ่งมีข่าวร้ายมโหฬาร ทำให้ผู้บริหาร “คนโตตัวเล็ก” อย่างนายสมชัย สูงสว่าง ต้องออกมาระงับสถานการณ์ “กระต่ายตื่นตูม” ด่วนจี๋ ก่อนที่ราคาหุ้นจะหลุดไปใต้ 15.00 บาท

คำชี้แจงที่ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าทำรายได้และกำไรตามปกติ …ทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพ….ไม่มีปัญหาใดๆ เชิงลบมากร้ำกราย ได้ผลทันทีเหมือนเจอการ “จี้จุด จิวเหว่ย” กะทันหัน …หยุดยั้งขาลงทันควัน

ไม่ธรรมดา สำหรับเสี่ยสองคนล่าสุด ที่จะทำให้คนลืมเสี่ยสองรุ่นเก๋าหมดจด

ข้อมูลทีเด็ดที่เสี่ยสองยกเอามาหักล้างการ “ขายหมู” ของนักลงทุนที่ตื่นตระหนกอยู่ที่ว่า ภายในสิ้นปี 2560 นี้ คาดบริษัทจะสามารถติดตั้งตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมได้ 124,000 ตู้ จากเดิมที่วางเป้าหมายอยู่ที่ 122,000 ตู้ เนื่องจากตัวแทนบริการสามารถหาพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อขยายการติดตั้งได้รวดเร็ว และคาดว่าจะส่งผลต่ออัตรายอดเติมเงินที่จะเติบโตในทิศทางที่ดี

ต้องขยายความกันเพิ่มเติมให้เห็นภาพของคำว่าตู้บุญเติม ซึ่งปัจจุบันมีหลายเวอร์ชั่นมาก ไม่เหมือนยุคแรก….ปัจจุบันสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” ที่ให้บริการ ประกอบด้วย ตู้เติมเงินบุญเติม (รุ่นคลาสสิก) และตู้เติมเงินบุญเติมพร้อมเครื่องชั่งน้ำหนัก แถมยังมี บุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิส, ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ เเละเติมเงินมือถือบุญเติม (Vending Machine and Top-Up), ตู้น้ำดื่มสะอาด และเติมเงินมือถือ (Water Vending & Top-Up machine) ซึ่งสินค้าทั้งหมดสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี… สมกับเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในตลาด mai ยามนี้

​ เมื่ออะไรก็ราบรื่นไปหมดตามปกติ…ไม่ฝืนธรรมชาติ……FSMART จึงไม่ลังเลใจที่จะบอกตรงๆ ว่า ได้ปรับเปลี่ยนการวางเป้าหมายยอดเติมเงินโดยรวมในปี 2560 เพิ่มเป็น 35,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากเดิมที่กำหนดไว้ 32,000 ล้านบาท

การเติบโตดังกล่าวเกิดจากการเติบโตทั้งเชิงปริมาณ คือ จำนวนตู้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยที่สิ้นปี 2560 มั่นใจเหลือเกินว่า จะสามารถติดตั้งตู้เติมเงินบุญเติมได้ 124,000 ตู้ มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 122,000 ตู้ และการเติบโตเชิงคุณภาพ

อย่างหลังนี้ดูจะโดดเด่นมีโอกาสแซงหน้าอย่างแรก เพราะการเพิ่มบริการหน้าตู้ใหม่ๆ เพื่อให้มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคที่จะส่งผลให้มียอดการใช้บริการหน้าตู้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บนความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ทิ้งห่างคู่แข่งไปไกล นับแต่….การเติมเงินมือถือทั้ง voice & non-voice, ยอด E-money, การรับชำระบิล, การจำหน่ายเครื่องดื่มในตู้ vending, การชั่งน้ำหนัก, การโอนเงินธนาคาร และบริการอื่นๆ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ บริการโอนเงินที่ปัจจุบันมีการให้บริการโอนเงินสำหรับธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย (สะดวกและมีต้นทุนถูกกว่าสำหรับธนาคารพาณิชย์) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งขณะนี้มียอดการใช้เพิ่มเป็น 24,000 รายการต่อวันจาก 21,000 รายการในไตรมาส 3/2560

ล่าสุด​ FSMART อยู่ระหว่างการเพิ่มธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เข้ามาในระบบการโอนเงินผ่านตู้เติมเงินบุญเติม เชื่อว่าจะสามารถให้บริการได้ไม่เกินเดือนมกราคมปี 2561 แล้วยังไม่พอ…ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับ 2 ธนาคาร เพื่อให้ตู้เติมเงินบุญเติมเป็นตัวแทนการโอนเงิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินครึ่งแรกของปี 2561

ตัวเลขอย่างที่ยกมานี้…. ทำให้จำต้องลบความทรงจำเก่าๆ หลายเดือนก่อนที่เสี่ยสอง ออกมาพูดถึงการเติบโตแบบ “ตะกายฟ้า” ในปี 2560 ที่เคยระบุว่า หลังสิ้นงวดไตรมาสสี่ FSMART จะมีกำไรเติบโต 54.7% …เพราะมันต่ำเกินไปเสียแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงว่า ราคาปิดล่าสุด 15.50 บาท มีค่าพี/อีแค่ 22 เท่าเศษ ต่ำสุดในรอบ 4 ปี…ว่าควรซื้อ หรือทิ้ง 

พี/อีที่ต่ำลงมาก ทำให้หุ้น FSMART ปลอดภัยไร้กังวลจากปรากฏการณ์ “ติดคุก” แคชบาลานซ์ บ่อยๆ อีกแล้ว ….เปิดทางให้ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวเข้าสู่โหมดที่เรียกว่า “พี/อีไล่ราคา” หรือ “let profit run” อย่างสะดวกใจ

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เสี่ยสองเอามาให้นักลงทุนเจ้าประจำเป็นการบ้านคือ….สำหรับแผนปีหน้าเน้น “รักษาของเก่า เติมของใหม่” ดันยอดเติมเงินเฉลี่ยต่อตู้พุ่งขึ้นไปอีก ต่อยอดจากปีนี้ ด้วยแผนการพื้นฐานเดิมที่ยังเติบโตต่อเนื่องไม่มีสะดุด เสริมด้วยแผนเพิ่มเติมในการขยายตู้เติมเงินเข้าสู่พื้นที่ชุมชน เช่น ตำบลต่างๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ไม่สะดวกในการเดินทางให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้

ที่สำคัญยังมีแผน “คั้นมะนาว” เพิ่มยอดเติมเงินเฉลี่ยต่อตู้ให้มากขึ้น ด้วยการหาบริการใหม่ๆ เพื่อให้บริการหลากหลาย ขยายฐานลูกค้าในการใช้ตู้บุญเติมเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพียงแต่แผนใหม่ ยังต้องรอชัดเจนกว่านี้เสียก่อน

นักวิเคราะห์หลายสำนัก ไม่รีรอที่จะย้ำราคาเป้าหมายเดิม 22.00 บาท … อัพไซด์เกือบ 50% จากราคาล่าสุด

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ…. ส่วนคนที่ยังไม่ยอมเชื่อ ก็ต้องปล่อยไปตามทาง

คนพวกนี้ กี่ครั้งแล้วที่ขายหมู ไม่เคยหลาบจำ…เจ็บแล้วไม่จำาาาา

อิ อิ อิ

Back to top button