MACO ห่านทองคำตัวล่าสุด

4 ปีก่อน (พ.ศ. 2557) บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ผู้ผลิตสื่อโฆษณากลางแจ้งและอาคารอันดับหนึ่งของไทย ใต้ร่มเงาของค่าย BTS ได้ตัดสินใจรุกเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญเพื่อ "ผ่าทางตัน" จากการต้องพึ่งพาพื้นที่หลักบนเส้นทางรถไฟฟ้าของ BTS ที่เริ่มมีขีดจำกัด ด้วยการ "ใช้เงินจ้างผีโม่แป้ง"


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

4 ปีก่อน (พ.ศ. 2557) บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ผู้ผลิตสื่อโฆษณากลางแจ้งและอาคารอันดับหนึ่งของไทย ใต้ร่มเงาของค่าย BTS ได้ตัดสินใจรุกเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญเพื่อ “ผ่าทางตัน” จากการต้องพึ่งพาพื้นที่หลักบนเส้นทางรถไฟฟ้าของ BTS ที่เริ่มมีขีดจำกัด ด้วยการ “ใช้เงินจ้างผีโม่แป้ง”

ปฏิบัติการดังกล่าวคือการเข้าซื้อหุ้น MACO ด้วยมูลค่ารวม 661.50 ล้านบาท ในสัดส่วน 24.43% ที่ทำให้ไม่ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ และปล่อยให้ผู้บริหารเดิมทำหน้าที่ตามปกติ รับรู้เฉพาะส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุนบนงบการเงินปีละครั้งเมื่อสิ้นงวดบัญชีเท่านั้น

การตัดสินใจเมื่อปี 2557 แม้จะไม่ได้ผิดพลาดเพราะ MACO ยังไปได้ดี มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 54% และอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยที่สูงถึง 22% แต่มีปัญหาอื่นเพราะ…โตช้าเป็นเต่าต้วมเตี้ยมไม่ทันใจ …เปิดช่องโหว่ให้คู่แข่งที่เล็กกว่าอย่าง แพลนบี มีเดีย หรือ PLANB ที่ใช้กลยุทธ์โตทางลัดเช่นกัน หาจังหวะเร่งโตวันโตคืน แม้จะยังห่างไกล แต่ก็ประมาทไม่ได้…เพราะยักษ์เล็ก สามารถต่อสายเข้ากับ BMN ในเครือข่ายของ BEM แห่งค่าย ช.การช่าง ที่ส่อเค้าว่ามีโอกาสจะเป็นคู่แข่งสำคัญในอนาคต

ปฏิบัติการฮุบ MACO แบบ “กินทั้งคำ” จึงเกิดขึ้นในปี 2559 โดยกลุ่มเครือข่าย BTS ยกกองเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมของ MACO โดย VGI เองเพิ่มอีก 12.46% ในราคาหุ้นละ 1.10 บาท ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่ม 37.42% ไม่นับรวมบริษัทอื่นในเครือข่ายและนอมินี พร้อมอัดงบอีก 2,071 ล้านบาท ตั้งโต๊ะทำเทนเดอร์ฯซื้อหุ้นที่เหลือ 62.58% จากผู้ถือหุ้นรายย่อย  …แม้ไม่หมด แต่ก็ครอบงำทำให้ MACO เป็นเครือข่ายในร่มเงาเดียวกันเต็มตัว

รวมทั้งการที่ VGI ขยายความร่วมมือกับ MACO หลังเข้าถือหุ้น เป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณาที่ติดตั้งอยู่ตามท้องถนนเป็นเวลา 3 ปี เพิ่มประโยชน์ในการขยายและเพิ่มขนาดพื้นที่สื่อโฆษณาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ทั้ง 2 บริษัท สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ถือว่างานนี้ MACO คือกองหน้ากล้าตายในสนามแข่งขันของธุรกิจสื่อโฆษณา นอกเส้นทาง BTS อย่างมีนัยสำคัญ

สถานการณ์ปี 2560 ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ว่ายุทธศาสตร์เชิงรุกของ VGI ถูกต้องอย่างยิ่ง เดินมาถูกทาง…ผลประกอบการคือคำตอบที่บอกไว้ชัด

ผลประกอบการงวดสิ้นปี 2560 ที่เพิ่งประกาศออกมา MACO มีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.50% จากปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท ….ทำนิวไฮตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ และมีรายได้รวม 932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.90% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 756.20 ล้านบาท

กำไรสุทธิที่กระโดดแรงจากหุ้นละ 0.03 บาทในปี 2559 เพิ่มเป็น 0.07 บาท เท่ากับเติบโตมากถึง 133.33% หากนำมาคำนวณจะเห็นได้ว่าค่า PEG ลดฮวบเหลือแค่ 0.4 เท่า สะท้อนว่าราคาหุ้นถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก แม้ว่าหากดูจากค่า P/E จะยังคงอยู่ที่มากกว่า 50 เท่าก็ตาม

รายได้และกำไรอันโดดเด่นเป็นผลมาจากบริษัทขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาให้ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านการควบรวมกิจการ (M&A) และการปรับเปลี่ยนสื่อโฆษณาภาพนิ่งในทำเล Prime Area เดิมที่มีอยู่ให้เป็นสื่อดิจิทัล 21 จอ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าเกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้

ทันทีที่ประกาศงบ นอกจากที่ประชุมคณะกรรมการ จะมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการงวดครึ่งปีหลังของปี 2560 ในอัตรา 0.018 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 62 ล้านบาท โดยกำหนดให้วันที่ 14 มี.ค. 2561 เป็นวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD)  และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พ.ค. 2561 แล้ว ยังมีมติให้เพิ่มทุนทันควันอีกประมาณ 10% เพื่อขายให้กับพันธมิตรแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ เพราะมีการตั้งเป้าว่าปี 2561 จะมีรายได้เติบโต 20-25% จากปี 2560 โดยเน้นกลยุทธ์รุกธุรกิจสื่อกลางแจ้งประเภทจอดิจิทัล (MACO CBD LED Network) ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัดมากขึ้น

มติเพิ่มทุนระบุว่าจะมีการลดทุนจดทะเบียนเดิมของบริษัท จากเดิม 409.52 ล้านบาท เหลือเท่ากับทุนที่ชำระแล้ว 343.89 ล้านบาท โดยตัดหุ้นจดทะเบียนจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (MACO-W1) ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิจำนวน 656,301,509 หน่วยลงไป ซึ่งหมดอายุและพ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560… เปลี่ยนเป็นเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 34.38 ล้านบาท เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลวงในจำกัด (Private Placement : PP ) จำนวนไม่เกิน  343,891,037 หุ้น

แม้จะยังไม่รู้ว่าคนซื้อหุ้นเพิ่มทุนจะเป็นใคร…ก็เชื่อขนมกินล่วงหน้าไว้ก่อนได้เลยว่า งานนี้ คนซื้อต้องไม่ใช่เครือข่ายของ BTS หรือ เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์แต่อย่างใด…ที่มีอยู่เดิมก็เยอะเกินพอแล้ว

ที่สำคัญต้องไม่ได้ขายในราคาถูกแน่นอน ต้องมีพรีเมี่ยมสูงกว่าระดับปกติ…เพราะยามนี้ MACO กำลังกลายสภาพเป็น “ห่านที่ไข่เป็นทองคำ” ทุกเมื่อเชื่อวันเสียแล้ว

มติที่ระบุว่า “….จะเสนอขายให้ผู้ลงทุนสถาบัน หรือผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงมีจำนวนไม่เกิน 50 ราย ในรอบระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งจะต้องไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน และราคาเสนอขายจะต้องเป็นราคาที่ดีที่สุดตามสภาวะตลาดในช่วงที่เสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุน โดยอาจมีส่วนลดได้ไม่เกินกว่า 10% ของราคาตลาด ซึ่งคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกัน แต่ไม่เกิน 15 วัน ก่อนวันกำหนดราคาเสนอขายหุ้นดังกล่าว….” บอกอนาคตไว้ล่วงหน้าหลายประการว่า….คนสวยเลือกได้

คนจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่ของ MACO มีเงินอย่างเดียวไม่พอ…ต้องใจใหญ่เป็นทะเลกว้างเหมือนกับ หรือ มากกว่า เจ้าสัวคีรี….ด้วย

อิ อิ อิ

Back to top button