SMIT กำไรแจ่ม

SMIT เป็นผู้นำในการนำเข้า จัดจำหน่ายและบริการ อย่างครบวงจรด้าน วัตถุดิบเหล็กแข็ง เครื่องจักร เครื่องมืออุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรมไม้ อุปกรณ์ไฟฟ้า และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมหลักในประเทศไท


คุณค่าบริษัท

บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) หรือ SMIT เป็นผู้นำในการนำเข้า จัดจำหน่ายและบริการ อย่างครบวงจรด้าน วัตถุดิบเหล็กแข็ง เครื่องจักร เครื่องมืออุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรมไม้ อุปกรณ์ไฟฟ้า และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมหลักในประเทศไทย

ถือว่าธุรกิจยังกระเตื้องดีต่อเนื่อง สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทมาโดยตลอด โดยเฉพาะรายได้ และกำไรมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รักษาระดับได้สม่ำเสมอตลอดมา

ล่าสุดผลการดำเนินงานงบปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,182.04 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,058.72 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 242.45 ล้านบาท หรือ 0.46 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 196.85 ล้านบาท หรือ 0.37 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้กำไรที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการวางแผนการจัดซื้อ และการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าและสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทเพิ่มการสำรองสินค้าคงคลังมากขึ้นในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า ทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทสูงขึ้นเป็น 31.69% จากเดิม 29.23%

สิ่งสำคัญ เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจสำหรับการลงทุนพบว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งมากๆ เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 1,751.20 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 331.93  ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 5.28 เท่า ถือว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินมากพอสมควร และอาจเกิดภาวะทุนจมเสียด้วยซ้ำ

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 375.79 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 2,188.97 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.17 เท่า นั่นหมายความว่า บริษัทไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สินอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดีแนวโน้มปี 2561 คาดผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลักจาก 1) ภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวส่งผลให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 2) ภาครัฐได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กทำแม่พิมพ์ และเครื่องจักรเพิ่มสูงขึ้น

และ 3)คาดยอดขายเหล็กแข็งสำหรับทำแม่พิมพ์และบริการชุบเหล็กเติบโตต่อเนื่อง จากการเพิ่มชนิดสินค้าที่มีความหลายหลายมากขึ้น 4)เม็ดเงินลงทุนในเครื่องจักรของผู้ประกอบการเริ่มทยอยกลับมา

อีกทั้งนักวิเคราะห์ บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม ประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ที่ระดับ 257.4 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 9.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทำให้ประเมินราคาเหมาะสมปี 2561 ของ SMIT ที่ 6.90 บาท อิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลังที่ 14.00 เท่า มี Upside 16.0% และคาดเงินปันผลปี 2561 ที่ 0.37 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่ 6.3%

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายชัยศิลป์ แต้มศิริชัย 43,499,346 หุ้น 8.21%
  2. นายประสงค์ ศรีธรรัตน์กุล 42,878,936 หุ้น 8.09%
  3. น.ส.ปรางทิพย์ ศิวรักษ์ 33,352,500 หุ้น 6.29%
  4. น.ส.ศศิรัตน์ ศิวรักษ์ 29,865,200 หุ้น 5.63%
  5. น.ส.ปิยะมล ศรีธรรัตน์กุล 27,217,900 หุ้น 5.14%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายชัยศิลป์ แต้มศิริชัย ประธานกรรมการ
  2. นายพฤทธิ์ สรญาณธนาวุธ กรรมการผู้จัดการ
  3. นายพฤทธิ์ สรญาณธนาวุธ กรรมการ
  4. นายประสงค์ ศรีธรรัตน์กุล กรรมการ
  5. นายพรศิลป์ แต้มศิริชัย กรรมการ

Back to top button