FSMART พลิกวิกฤตเป็นโอกาส แบงก์เว้นค่าฟีต้นทุน “ตู้บุญเติม” ลดฮวบ

FSMART พลิกวิกฤตเป็นโอกาส แบงก์เว้นค่าฟีต้นทุน "ตู้บุญเติม" ลดฮวบ


สืบเนื่องจากกรณีที่ธนาคารพาณิชย์ในไทยหลายแห่งประกาศงดเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต หรือโอนต่างธนาคารแบบทันที จ่ายบิลค่าสินค้าและบริการ บริการเติมเงิน ผ่าน Netbank จนถึงสิ้นปีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลในเรื่องของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของบริษัทจะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ยังพ่วงไปถึง บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า (Pre-paid) และบริการชำระเงินออนไลน์ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ (ตู้เติมเงิน) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” ที่ถูกแรงเทขายออกมาอย่างหนักต่อเนื่องจากวานนี้

ล่าสุดวันนี้ (29 มี.ค.61) นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART เปิดเผยผ่านรายการ Stock News Update ช่วง Mid-Day Report เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า บริษัทไม่มีความกังวลใดๆ เกี่ยวกับประเด็นที่ทางธนาคารประกาศงดเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว เนื่องจากฐานลูกค้าของบริษัทเป็นคนละกลุ่ม พร้อมยืนยันว่าในปี 2561 บริษัทจะมีผลการดำเนินงานเติบโต 15-20% ตามเป้าหมายเดิม

โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายหลักมาจากกการเติมเงินมือถือที่ 2,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89% รายได้จากการโอนเงินผ่านธนาคาร 180 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.8% รายได้จากการจ่ายบิล 140 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.5% และรายได้อื่นๆ ดังนั้น การที่ธนาคารประกาศงดค่าธรรมเนียมในการใช้บริการโอนเงิน-จ่ายบิล จึงไม่กระทบกับธุรกิจแน่นอน เนื่องจากสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากธุรกิจโอนเงินเป็นหลัก

อีกทั้งการที่ธนาคารหลายแห่งประกาศงดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว ยังทำให้บริษัทได้รับผลดีในเรื่องของค่าธรรมเนียมที่บริษัทต้องชำระให้กับธนาคารทุกเดือน ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมในกับธนาคาร

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงคาดว่าเกิดจากการที่นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลกับข่าวที่รายงานออกมาก่อนหน้านี้ โดยที่ยังไม่วิเคราะห์ว่ามันเป็นคนละส่วนกัน เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นกลุ่มรากหญ้า หรือตามพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งไม่มีเงินเก็บในธนาคาร รวมถึงชาวบ้านที่ยังมีความรู้ในเรื่องเทคโนโลยียังไม่มากนัก

 

Back to top button