THMUI มั่นใจผลงาน Q2 โตกว่า Q1 หลังรับรู้รายได้วางท่อประปา 165 ลบ.

THMUI มั่นใจผลงาน Q2/61 โตกว่า Q1/61 หลังรับรู้รายได้โครงการวางท่อประปา 165 ลบ. พร้อมลุยประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง


นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ THMUI เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/61 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จในงานโครงการวางท่อประปาบางส่วน ที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา มูลค่ารวมประมาณ 165 ล้านบาท สามารถเดินหน้าได้ตามแผนการที่วางไว้ คาดจะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบงานได้ภายในเดือนมิถุนายนปีนี้ และสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 2/61

ขณะที่แผนการติดตั้งเครื่องทดสอบแรงดึงขนาด 400 ตัน แล้วเสร็จในช่วงต้นเดือนมิถุนายน สนับสนุนให้บริษัทมีเครื่องทดสอบแรงดึงขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ พร้อมให้บริการรองรับลูกค้าชั้นนำที่มีความต้องการตรวจสอบลวดสลิงขนาดใหญ่ คุณภาพสูง เพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และการเติบโตในอนาคต

โดยลูกค้าที่มีความต้องการใช้เครื่องทดสอบแรงดึงขนาดใหญ่ ได้แก่ ลูกค้ากลุ่มท่าเรือ ขุดเจาะน้ำมัน และอื่นๆ เพราะเป็นกลุ่มที่มีการใช้ลวดสลิงขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบัน มีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเข้ามาใช้บริการแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องอีกหลายโครงการ จากลูกค้าซึ่งอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม รับอานิสงส์การขับเคลื่อนการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชน โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการขยายท่าเรือ ขยายสนามบิน มอเตอร์เวย์ งานก่อสร้าง โรงไฟฟ้า และอื่น ๆ หนุนความต้องการใช้สินค้าและบริการของบริษัทเพิ่มขึ้น

โดยปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาซื้อลวดสลิงและบริการตรวจสอบลวดสลิงเข้ามาแล้ว เป็นสัญญารายปีสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในระยะยาว ควบคู่กับความสามารถในการบริหารจัดการสต็อกสินค้า และการบริหารจัดการภายในให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่สูงถึง 40% จึงมั่นใจผลงานปีนี้ทำนิวไฮ เป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 35% เมื่อเทียบกับปี 2560 รายได้อยู่ที่ 387.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.34 ล้านบาท

ภาพรวมธุรกิจลวดสลิงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีความต้องการสูง ถูกใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ THMUI ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้ว รวมทั้งมีสินค้าต่างๆ ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ครบวงจรด้วยบริการตรวจสอบเครน ลวดสลิง ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนและขยายตัวของงานโครงการต่างๆ

นอกจากนี้ ลวดสลิงเป็นสินค้าที่ใช้แล้วเสื่อมสภาพไป ต้องตรวจสอบสภาพการใช้งานตามกฎหมายทุก 3-12 เดือน ทำให้มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และเพื่อขยายการเติบโต บริษัทได้เข้าไปรุกในงานโครงการวางท่อเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

ล่าสุดเตรียมส่งมอบงานมูลค่ากว่า 165 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นแค่เฟสแรก และคาดว่าจะเดินหน้าลุยประมูลงานโครงการท่อเฟสต่อไปอย่างต่อเนื่องอีก เพื่อเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนรายได้ที่แข็งแกร่งในอนาคต”นายทชากร กล่าว

Back to top button