KWM ขึ้นสังเวียนเทรดวันแรก ลุ้นวิ่งทะลุ 2.10 บ. ขานรับธุรกิจโตเด่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (1 ต.ค.) บริษัท เค. ดับบล …


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (1 ต.ค.) บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม เป็นวันแรก โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหุ้นชำระแล้ว จำนวน 420 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 210 ล้านบาท

โดย KWM เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น โดยจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 115.5 ล้านหุ้น และจัดสรรให้กับกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจำนวน 4.5 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.30 บาท ทั้งนี้ KWM ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ได้แก่ ใบผาล โครงผาล ใบเกลียวลำเลียง และใบดันดิน

นอกจากนี้ นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร KWM  เปิดเผยถึงการซื้อขายหุ้น KWM วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)  ในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ว่า มั่นใจหุ้น KWM  ที่เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และน่าจะยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 1.30 บาท/หุ้นได้ และจากการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจจากการมีเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

คาดว่าหุ้น KWM ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และสามารถยืนเหนือราคาจองได้ เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้มีความสดใสขึ้นหลังมีการประกาศความชัดเจนในการเลือกตั้งในปี 2562  และเราเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทฯ ทั้งผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการวิจัยและพัฒนาคุณภาพของอุปกรณ์การเกษตรด้วยตนเอง 

โดยในปี 2561 แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯ มีทิศทางในการเติบโตที่โดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับปีนี้เรามีโปรดักส์ใหม่ คือ ใบผาลที่ผลิตจากเหล็กโบรอนซึ่งเป็นเหล็กรุ่นใหม่ โดยจะเข้ามาสนับสนุนยอดขายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 20% ” นายเอกพันธ์ กล่าว

สำหรับการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นการเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ มีนวัตกรรม, เทคโนโลยี และพื้นฐานเทคนิคด้านการเกษตร หากมีการพัฒนาที่ดี เชื่อมั่นว่าธุรกิจอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตรภายในประเทศยังโตได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้บริษัทฯ จะสร้างการเติบโตในสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการเกษตรซึ่งเป็นพื้นฐานของประเทศไทย จึงคาดการณ์ว่าเกษตรกรจะใช้เครื่องจักรกลการเกษตรอย่างแพร่หลาย ซึ่งบริษัทก็จะเติบโตตามอุตสาหกรรมการเกษตร ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของใบผาลอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านใบในปี 2560  บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาด 20-30% และในปี 2561 บริษัทฯ ตั้งเป้าการผลิตใบผาลไว้ที่ประมาณ 2 แสนใบ

ด้าน นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ บล.เออีซี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน KWM เปิดเผยว่า หุ้น KWM ได้รับความสนใจจองซื้อหุ้นอย่างมากในช่วงที่เปิดการจองซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 19-21 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

โดยบริษัทฯ เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกจำนวน 120  ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.30 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง อนาคตมีการเติบโตต่อเนื่อง

 “มั่นใจว่า KWM  เข้าซื้อขายวันแรกราคาจะอยู่เหนือราคาจองที่ 1.30 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากบริษัทฯมีผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างโดดเด่น

อีกทั้งภาวการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นไทยดีขึ้นจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยืนเหนือ 1,700 จุดได้ และต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิส่งผลดีต่อหุ้น KWM ในการเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จากจุดแข็งทางธุรกิจหลายประการ เช่น ศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร

พร้อมทั้งมีทีมวิจัยและพัฒนาคุณภาพของอุปกรณ์การเกษตรโดยผู้เชี่ยวชาญ และไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ตลาดสินค้าเกษตรมีขนาดใหญ่มาก ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสเติบโตสูงในอนาคต  รวมทั้งบริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จึงทำให้เชื่อมั่นว่า KWM จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน” นายชนะชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าราคาหุ้น KWM เข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก (28 ก.ย.) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นแตะ 2.10 บาท จากราคา IPO ที่ 1.30 บาท มีอัพไซต์อยู่ที่ 62% ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาราคาหุ้นของหลักทรัพย์ที่เข้าซื้อขายในตลาด mai เป็นวันแรก ส่วนใหญ่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือราคา IPO ได้เกิน 50% จึงคาดว่า KWM น่าจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้สูงเช่นเดียวกัน

 

 

 

 

Back to top button