JKN มั่นใจผลงานปีนี้โตตามเป้า 20% จ่อปิดดีลขายลิขสิทธิ์ตปท. 300 ลบ. รับรู้รายได้ถึงปี 62

JKN มั่นใจผลงานปีนี้โตตามเป้า 20% จ่อปิดดีลขายลิขสิทธิ์ตปท. 300 ลบ. รับรู้รายได้ถึงปี 62


นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2561 จะเติบโต 20% ได้ตามแผนงานอย่างแน่นอน หลังจากผลการดำเนินในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีรายได้รวม 1,058.8 ล้านบาท

ขณะที่กำไรสุทธิ 181.7 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 96.82% ของกำไรสุทธิทั้งปีของปี 2560 ที่ทำได้ 187.67 ล้านบาท จากปัจจัยความสำเร็จของกระแสซีรี่ส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ JKN สามารถจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้แก่ผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ในภูมิภาคอาเซียนได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถปิดสัญญาการขายในปีนี้จากตลาดต่างประเทศประมาณ 300 ล้านบาทได้ตามเป้า ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ได้บางส่วนและที่เหลือจะทยอยในปีถัดไป

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3/61 บริษัทฯ ยังมีลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่อยู่ระหว่างการรอส่งมอบให้แก่ลูกค้าอีกกว่า 335 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้เป็นบางส่วน

อย่างไรก็ตาม มูลค่าสัญญาการขายจำนวน 300 ล้านบาทนั้น ไม่นับรวมจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครช่อง 3 ที่ปัจจุบันได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดต่างประเทศเช่นกัน ที่มีมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท และรายได้ที่จะเกิดการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ภาพยนต์ “นาคี2” ที่ JKN เป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อจำหน่ายไปทั่วโลก ยกเว้นประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าต่างประเทศกว่า 30 ราย ที่ให้ความสนใจจะซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อไปฉายในโรงภาพยนตร์โดยอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดเพื่อปิดสัญญาการขาย

นอกจากนี้ บริษัทเร่งทำตลาดเพิ่มเติม โดยจะไปออกบูทในงาน ATF 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนธันวาคมเพิ่มเติม โดยเชื่อมั่นว่าจากการออกงานในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและมีโอกาสปิดสัญญาการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ภาพยนต์ “นาคี2” กับลูกค้าได้บางรายได้ทันภายในปีนี้

“ตลาดต่างประเทศถือเป็น Blue Ocean ของ JKN ที่มีโอกาสขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์ รวมถึงคอนเทนต์ละครไทยได้อีกมาก ซึ่งต่อจากนี้จะเห็นการเติบโตของรายได้ที่มาจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป” นายจักรพงษ์ กล่าว

Back to top button