ORI วิ่งฉิว7% ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โตแตะ 1.9หมื่นลบ. ฟากโบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้า12.30บ.

ORI วิ่งฉิว7% ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โตแตะ 1.9หมื่นลบ. ฟากโบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้า12.30บ. โดย ณ เวลา 15.42 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 7.04% สูงสุดที่ระดับ 7.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.05 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 281.96 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ล่าสุด ณ เวลา 15.42 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 7.04% สูงสุดที่ระดับ 7.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.05 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 281.96 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI เปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 62 จะเติบโตเป็น 1.9 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.6 หมื่นล้านบาท  โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงไป 65

ทั้งนี้ในปี 62 มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 15 โครงการ มูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้เปิดโครงการรวมทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านจัดสรร มูลค่า 3 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีบ้านหลังแรกมากขึ้น รวมถึงผู้ที่ต้องการย้ายจากบ้านมาที่คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มองความต้องการที่อยู่อาศัยในปีหน้ายังคงมีความต้องการสูงอยู่ และด้วยทำเลใหม่ๆ ของบริษัทฯ โดยเฉพาะพื้นที่ย่านบางนา วงแหวนตะวันออก สมุทรปราการ และพื้นที่ EEC น่าจะส่งผลดีต่อความต้องการซื้ออีกมาก ซึ่งการพัฒนาโครงการดังกล่าวบริษัทฯ มีที่ดินรองรับไว้ทั้งหมดแล้ว

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/61 โดยบริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮม บริทาเนีย เมกะทาวน์ มูลค่าโครงการ 1.9 พันล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรร บริทาเนีย บางนา กม.12 มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 15-25 ธ.ค.นี้ และจะเปิดขาย (Pre-sale) อย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 14 ก.พ.62

อีกทั้งยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ที่จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในช่วงนี้อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ จตุจักร มูลค่า 600 ล้านบาทและ โครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 มูลค่า 2.4 พันล้านบาท โดยคาดว่าโครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 จะรับรู้รายได้ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ เข้ามาบางส่วนประมาณ 50-100 ล้านบาท ขณะที่ส่วนใหญ่จะรับรู้ในปี 62 ทำให้ทั้งปีนี้ยอดขายจะอยู่กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ และรายได้จะเติบโตไปตามเป้าหมายที่ 1.6 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ นายพีระพงษ์ กล่าวถึงราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากว่า ด้วย P/E ปัจจุบันที่ 4.7-4.8 เท่า ถือเป็นจุดที่น่าสนใจเข้าลงทุนแล้ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เดินสายโรดโชว์ในประเทศสิงค์โปร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันอยู่ที่ 15-20% ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาซื้อหุ้นคืนด้วย

 

ด้าน บล.เคทีซีมิโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ (26 พ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” ORI ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท/หุ้น โดยยอด presales ช่วง 9 เดือนแรก 2561 เป็นไปด้วยดี ขณะที่คาดกระทบจากมาตรการคุม LTV มีผลกระทบต่อสินค้าคงเหลือสัดส่วน 6% พร้อมตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่มีมูลค่าสูงขึ้นในปี 2562 อย่างไรก็ดี คงประมาณการกำไรปกติปี 2561 แต่ปรับลดคาดการณ์กำไรปกติปี 2562 ลง 9.4%

โดยกำไรปกติ 9 เดือนแรก 2561 เพิ่ม 143.8%จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และคิดเป็น 64% ของคาดการณ์กำไรปกติปี 2561 ซึ่งคาดว่าแนวโน้มกำไรในไตรมาส 4/61 จะเพิ่มจากไตรมาสก่อน เพราะ ORI ยังมี backlog คอนโด 4.95 พันล้านบาท ที่จะรับรู้เป็นรายได้ ในขณะที่ได้ปรับลดคาดการณ์กำไรปกติปี 2562 ลง 9.4% และส่งผลให้ราคาเป้าหมายปี 2562 ลดลงเป็น 12.30 บาท (PER 10 เท่า) จากเดิม 15.80 บาท (PER 12 เท่า)

อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจาก ORI มี Backlog รองรับรายได้ปี 2561-62 แล้วที่ 104% และ 76% ตามลำดับ และราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายที่ PERเพียง 5.8 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายมาก

Back to top button