JKN บวก 3% ลุ้นรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 20% หลังปิดดีลขายลิขสิทธิ์ซีรี่ส์อินเดียให้ “ช่อง 5”

JKN บวก 3% ลุ้นรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 20% หลังปิดดีลขายลิขสิทธิ์ซีรี่ส์อินเดียให้ "ช่อง 5" ฟากโบรกฯแนะซื้อเป้า 14 บ. ชี้ผลงานไตรมาส 4 ฟื้นตัวเด่น ล่าสุด ณ เวลา 11.51 น. อยู่ที่ 11.40 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.70% สูงสุดที่ 11.50 บาท ต่ำสุดที่ 11.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 15.88 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ล่าสุด ณ เวลา 11.51 น. อยู่ที่ 11.40 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.70% สูงสุดที่ 11.50 บาท ต่ำสุดที่ 11.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 15.88 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น JKN ปรับตัวขึ้นหลังสถานีโทรทัศน์ ททบ5 ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียเรื่อง ‘ม่านรักม่านประเพณี’ ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีจำนวนตอนมากที่สุดของประเทศอินเดีย เตรียมออกอากาศระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ ส่งผลดีการสร้างกระแสเรตติ้งและฐานกลุ่มผู้ชมที่นิยมชมซีรี่ส์อินเดียของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5

โดย นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี JKN เปิดเผยว่า ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทได้ลูกค้าใหม่ช่อง 5 เพิ่มเข้ามา ส่งผลต่อรายได้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 20% อีกทั้งยังมีการเจรจาเพื่อจำหน่ายคอนเทนท์ซีรี่ย์อินเดียและฟิลิปปินส์ให้กับกลุ่มทีวีดิจิทัลในประเทศเพิ่มเติมอีก 2-3 ราย

ส่วนความคืบหน้าการผลิตรายการข่าวธุรกิจเพื่อออกอากาศช่อง JKN CNBC (เคเบิล แซทเทิลไลท์) ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสตูดิโอ และจัดเตรียมบุคลากรเพื่อผลิตคอนเทนท์รายการข่าวภาคภาษาไทย ตามรูปแบบคอนเทนท์ภายใต้แบรนด์ CNBC ที่ได้ลิขสิทธิ์จาก National Broadcasting Company Universal (NBC) สหรัฐฯ โดยคาดว่าจะดำเนินการออกอากาศได้ภายในไตรมาส 2/62 และรับรู้รายได้เข้ามาทันที

ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิทัล จำนวน 3-4 ราย เพื่อผลิตและจำหน่ายคอนเทนท์ออกอากาศในประเทศไทย โดยตั้งเป้านำเสนอคอนเทนท์ผ่านช่องทีวีดิจิทัลช่องละ 1 รายการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทจะขยายการลงทุนไปสู่การเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์เพื่อจำหน่าย จากเดิมที่เป็นผู้จัดจำหน่ายคอนเทนท์ระดับสากล ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ

ช่อง JKN CNBC ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างสตูดิโอ ก็คาดว่าจะเริ่มออกอากาศได้ภายในไตรมาส 2/26 ซึ่งจะเป็นการผลิตคอนเทนท์ครั้งแรกของบริษัทฯ ในรูปแบบของ CNBC ที่จะนำมาตัดต่อ แปล และพากษ์เสียงภาษาไทย ส่วนการเจรจาเพื่อเข้าซื้อหุ้นช่อง Money Channel จาก GRAMMY เพื่อใช้ออกอากาศคอนเทนท์ของ CNBC นั้น เราได้ยกเลิกดีลนี้ไปแล้ว และไม่มีความสนใจที่จะเข้าลงทุนในช่องดังกล่าวอีก เนื่องจากล่าสุด ช่อง Money Channel ได้ประกาศยุติการออกอากาศไปแล้ว”

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 62 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งยังไม่ได้นับรวมการรับรู้รายได้จาก JKN CNBC แต่เป็นไปตามธุรกิจจำหน่ายคอนเทนท์ในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศ บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 30-35% จากปีนี้คาดอยู่ที่ 20-25% ด้วยการขยายฐานผู้ชมในต่างประเทศมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าภายใน 3-5 ปีจากนี้จะต้องเป็นผู้จัดจำหน่ายคอนเทนท์ชั้นนำในภูมิภาค และก้าวต่อไปสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายคอนเทนท์ระดับโลก ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% หรือเท่าเทียมกันกับรายได้ในประเทศ

ขณะเดียวกันในปี 62 บริษัทฯ วางงบลงทุนเบื้องต้นไว้ที่ 800 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ เพื่อใช้ในการซื้อคอนเทนท์ รวมถึงการลงทุนด้าน Production

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำซื้อ หุ้น JKN ให้ราคาเป้ามหายที่ 14 บาทต่อหุ้น โดยในไตรมาส 3/61 บริษัทมี Backlog ที่ 335 ล้านบาทที่ทยอยรับรู้ และในไตรมาส 4/61 สามารถปิดการขายลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มทีวีดิจิทัลได้เพิ่มขึ้น

รวมถึงกลุ่มเคเบิ้ลทีวีที่ปิดการขายได้เพิ่มขึ้นหลังชะลอตัวไปในช่วง 9 เดือนแรกปี 2561 และรับรู้รายได้ขายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ หนี้สงสัยจะสูญที่ตั้งสำรองคาดบันทึกกลับหลังลูกหนี้ทยอยชำระ ทำให้คาดว่ารายได้และกำไรในไตรมาส 461 จะดีขึ้นเมื่เทียบจากไตรมาสก่อน และดีขึ้นมากเมื่อเทียบจากปีก่อน

ส่วนในปี 2562 คาดกำไรที่ 329 ล้านบาท ยอดขายยังเติบโตจากการได้ลูกค้าทีวีดิจิทัลเพิ่ม เริ่มรายการข่าว CNBC และการขายค่าลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ

Back to top button