“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้มีโอกาสพักตัวในกรอบ 1,550-1,570 จุด แนะสะสม 7 หุ้น Domestic Play

“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้มีโอกาสพักตัวในกรอบ 1,550-1,570 จุด แนะทยอยสะสม 7 หุ้น Domestic Play


บล.เออีซี ประเมินดัชนีวันนี้ (3ม.ค.62) มองตลาดมีโอกาสพักตัวในกรอบ 1,550-1,570 จุด  (แนวรับ Horizontal Line – แนวต้าน Downward Slope) เนื่องจากปัจจัย ตปท. กดดัน 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัว  และ 2) ความชัดเจนของ Government Shutdown

Investment Strategy

ในสัปดานี้คาด SET Index จะแกว่งในกรอบแนวรับ-แนวต้าน 1,550-1,591 จุด แต่ Upside ยังค่อนข้างจำกัดหลังนักลงทุนยังต้องระวังปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจในต่างประเทศทั้งจีน ยุโรป และสหรัฐฯ และจะสะท้อนไปยังอุปสงค์ของน้ำมันดิบในตลาดที่อาจปรับลงในช่วงสั้น นอกจากนี้ยังมีปัญหา Government Shutdown ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลาย ดังนั้นในช่วงนี้แนะนำทยอยสะสม 3 กลุ่มหุ้น Domestic Play + 1 กลุ่มกองทุนที่คาดหวังเงินปันผลจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอ ดังนี้

กลุ่มสื่อ คาดช่วง 4Q61 โตเด่น YoY ซึ่งมีฐานต่ำในช่วง 4Q60 จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงเม็ดเงินโฆษณาภาคเอกชนยังโตต่อเนื่อง แนะนำPLANB(แผนขยายMedia Capacity ปี 62 ที่ 12-15%YoY ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น และสร้างจุดเด่นด้วย Engagement Marketing พร้อมแผนต่อยอดธุรกิจ Sport Marketing ด้วยการลงทุนในร้านนำเข้าสินค้ากีฬาภายใน้แบรนด์ ATMOS), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานี BTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ ส่วน MACO ยังมีผลดำเนินงานดีต่อเนื่องจากแผนปรับปรุงจอโฆษณาจาก Static เป็น Digital ในหลายพื้นที่ บวกกับคาดมีแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น พร้อมแผน M&A อีก 2-3 บริษัทในปีหน้าเพื่อก้าวสู่การเป็น Marketing Solution)

กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืน VAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย  E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายเพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) และCPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้าน ตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60)

กลุ่มนิคม มองได้อานิสงส์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นคาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขตEEC โตเด่น แนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว 8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคม ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1 แสน ตรม.)

กองทุนที่มีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอ ได้แก่ TFFIF (ประมาณการเงินที่สามารถปันส่วนแบ่งให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับปี 61/62 ราว 0.475 บาท/หน่วย+ความเสี่ยง 7/8), POPF (อัตราเงินปันผลในอดีตที่ 7.67%+ความเสี่ยง 6/8) QHPF (อัตราเงินปันผลในอดีตที่ 6.46%+ความเสี่ยง 6/8), BTSGIF (อัตราเงินปันผลในอดีตที่  6.76%+ความเสี่ยง 7/8)

Back to top button