หึ่ง “ประยงค์” ทุบ JKN หวังสอยหุ้นราคาถูก ลือรู้วงในกำไรโตเด่น!

หึ่ง “ประยงค์” ทุบ JKN หวังสอยหุ้นราคาถูก ลือรู้วงในกำไรโตเด่น!


สืบเนื่องจากวานนี้ (16 ม.ค.2562) ราคาหุ้นบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ปรับตัวลดลงอย่างหนัก หลังมีการรายงานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช.เห็นชอบแผนเยียวยากลุ่มทีวิดิจิทัล โดยเปิดทางให้ผู้ประกอบการสามารถคืนไลเซ่นช่องทีวีดิจิทัลได้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในเรื่องของผลการดำเนินงานของ JKN ในแง่ของการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่อาจจะถูกยกเลิกสัญญา

ล่าสุดวันนี้ (17 ม.ค.2562) นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทาง Facebook Live ข่าวหุ้นธุรกิจ และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ถึงกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ว่า การที่ราคาปรับตัวลดลงมานั้น ไม่เกี่ยวกับประเด็นข่าว กสทช.แต่อย่างใด โดยลูกค้าช่องทีวีดิจิทัลยังคงต่อสัญญากับทางบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านสถานะการเงิน และจะไม่คืนไลน์เซ่นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักนั้น มองว่าเป็นการทุบราคาหุ้นมากกว่า โดยจากการที่ได้สังเกตมาเป็นระยะเวลา 2 เดือน พบว่ามีการทุบหุ้นและเข้าไล่เก็บช่วงราคาหุ้นตกลงมาเพื่อเพิ่มปริมาณหุ้นที่ถืออยู่ เนื่องจากทางบริษัทกำลังจะประกาศผลการดำเนินงานของปี 2561 ในช่วงเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วงดังกล่าวจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในส่วนของรายได้และกำไรสุทธิ นอกจากนี้ยังมีการยืนยันว่า ตนและครอบครัว ไม่ได้ขายหุ้นออกมาแต่อย่างใด โดยยังคงสัดส่วนการถือหุ้นเท่าเดิม

“การเปิดให้คืนใบอนุญาตจะไม่กระทบกับธุรกิจ เพราะพันธมิตรคู่ค้าของเรามีความแข็งแกร่ง เป็นผู้นำในช่องทีวีดิจิตอลและมีเป้าหมายที่ต้องการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิตอลอย่างจริงจัง ดังนั้นความร่วมมือกันยังเป็นไปเช่นเดิม JKN มองว่าสำหรับการงดเว้นค่า License 2 งวดสุดท้าย จะช่วยต้นทุนของผู้ประกอบการ ทำให้มีเงินลงทุนในด้านคอนเทนต์มากขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อ JKN นอกจากนี้แผนงานที่เราต้องการขยายไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมในปีนี้ ซึ่งถือเป็นตลาด Blue Ocean ที่ JKN จะนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปจำหน่ายเพิ่มเติม จะทำเป็นหนึ่งในคีย์แห่งความสำเร็จในปีนี้ที่จะผลักดันเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายจักรพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ ราคาหุ้น JKN ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดที่ระดับ 13.20 บาท เมื่อวันที่ 12 ต.ค.61 กับราคาหุ้นปัจจุบัน (17 ม.ค.62 ณ เวลา 11.01 น.) ที่ระดับ 6.35 บาท หรือคิดเป็นคิดเป็นการปรับตัวลดลงถึง 51.89%

โดยจากการสำรวจข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ JKN พบว่า อันดับ 1.นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ถือหุ้น 280,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 51.85%, 2.MEDIA KING CAPITAL LTD ถือหุ้น 68,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 12.59%, 3.นายประยงค์ วนิชสุวรรณ ถือหุ้น 51,150,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.47%,  4.  น.ส.พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ถือหุ้น 40,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.41%, 5. นายณรัฐ จิวาลัย ถือหุ้น 3,700,000  หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.69%, 6.นายธนะสิน พิพัฒน์กิตติกุล ถือหุ้น 3,132,500 หุ้น หรือคิดเป็น 0.58% และ 7. น.ส.ชนม์นิภา ลำโกน ถือหุ้น 2,820,000 หุ้น หรือคิดเป็น 0.52%

ทั้งนี้ หากแบ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นออกเป็นกลุ่มจะพบว่า อันดับ 1, 2 และ 4 เป็นกลุ่มของ จักราจุฑาธิบดิ์ ประกอบด้วย น.ส.พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของนายจักรพงษ์ และบริษัท MEDIA KING CAPITAL LTD ซึ่งเป็นบริษัทที่กลุ่มครอบครัวจักราจุฑาธิบดิ์ เป็นผู้มีอำนาจควบคุม ซึ่งมีการยืนยันว่าไม่ได้มีการทำรายการขายหุ้นออกมาแต่อย่างใด

โดยครั้งล่าสุดที่ตระกูลจักราจุฑาธิบดิ์ ทำรายการขายหุ้น JKN คือวันที่ 4 ธันวาคม 2561 โดยเป็นการจำหน่ายหุ้นของน.ส.พิมพ์อุมาให้กับ รศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น 1.3% จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น  4.81% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 5 ,6 และ 7 มีสัดส่วนการถือหุ้นไม่ถึง 1% ซึ่งคาดว่าไม่ใช่สาเหตุที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนัก

ดังนั้น จึงน่าตั้งเป็นข้อสังเกตว่า นายประยงค์ วนิชสุวรรณ ซึ่งถือหุ้น JKN อยู่ทั้งหมด 51,150,000 หุ้น คิดเป็น 9.47% เป็นผู้ขายหุ้นออกมาจนราคาหุ้น JKN ลดลงอย่างหนักหรือไม่ ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (17 ม.ค.2562) มีรายงานการจำหน่าย หุ้นของ JKN โดย นายประยงค์ ซึ่งเป็นการจำหน่ายเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น 0.79% ในช่วงราคาสูงสุดที่ 7.70 บาท โดยจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น  4.62% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ทั้งนี้นายประยงค์ เป็นผู้ถือหุ้นของ JKN มาตั้งแต่การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และได้ทำการซื้อหุ้น JKN เพิ่มในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าวนายประยงค์มีสัดส่วนการถือหุ้นถึง 5.01% ขณะที่ล่าสุดตามข้อมูลภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้นอ้างอิงจากเว็บไซต์ของตลาดหลักหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ส.ค.2561) นายประยงค์ ถือหุ้น JKN อยู่ทั้งหมด 9.47%

ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1. นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ 280,000,000 51.85
2. MEDIA KING CAPITAL LTD 68,000,000 12.59
3. นายประยงค์ วนิชสุวรรณ 51,150,000 9.47
4. น.ส.พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ 40,000,000 7.41
5. นายณรัฐ จิวาลัย 3,700,000 0.69
6. นายธนะสิน พิพัฒน์กิตติกุล 3,132,500 0.58
7. น.ส.ชนม์นิภา ลำโกน 2,820,000 0.52

ดังนั้นเท่ากับว่าตั้งแต่หลังวันที่ 28 ส.ค.2561 นายประยงค์ ขายหุ้นออกมาแล้วถึง 4.85% ส่งผลมีหลักทรัพย์ที่ถืออยู่ล่าสุดเพียง 4.62%

ทั้งนี้ ทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ติดต่อเข้าไปสอบถามยัง นายประยงค์ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด ทั้งนี้หากมีประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมจะทำการรายงานให้ทราบในครั้งต่อไป

Back to top button