IVL ขึ้นแท่นผู้นำตลาดอเมริกาเหนือเก็งกำไร Q2 โตทะลัก 2.27 พันลบ.

IVL ขึ้นแท่นผู้นำในตลาดวัตถุดิบอเมริกาเหนือ หลังเข้าเทคโอเว่อร์กิจการ PTA ในแคนาดาเป็นของตัวเอง ด้าน กูรูเก็ง Q2 กำไรพีคสุดในรอบ 3 ปี ส่วนราคาหุ้นมีลุ้นแตะไฮเดิมที่ 31 บาท


วานนี้ (23 มิ.ย.) บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVLระบุว่า บริษัทได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อระยะยาวจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย เพื่อซื้อกิจการ PTA ในสัดส่วน 100% ในบริษัท CEPSA Chimie Montréal s.e.c. ในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง CEPSA Química SA บริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% โดยบริษัท CEPSA และบริษัท IQ CHIMIE INC. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Investissement Québec

โดยโรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิต PTA อยู่ที่ระดับ 600,000 ตันต่อปี และจะทำให้ IVL มีความมั่นคงมากขึ้นในด้านการจัดหาวัตถุดิบเพื่อป้อนเข้าสู่โรงงาน และยังช่วยเสริมสร้างตำแหน่งผู้นำในตลาดวัตถุดิบในอเมริกาเหนือในทันที

 

ขณะที่โบรกฯใหญ่หลายเจ้าคงคำแนะนำซื้อ IVL (Consensus 9 ราย แนะซื้อ) โดยเจ้าแรกอย่าง บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ได้ออกมาคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 58 ดีขึ้น จากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นทำให้มีกำไรจากสต็อก และราคา MEG ปรับขึ้นราว 50-70 ดอลลาร์ต่อตันจากไตรมาส 1 ปี 58

ขณะที่ราคาเอทธีลีนซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต MEG มีราคาต่ำ ทำให้ Spread ของ MEG ในไตรมาส 2 ปี58 จะดีขึ้นจากชไตรมาสก่อน สำหรับ PTA ดีขึ้นเนื่องจากอุปทานลดลงหลังโรงงานในจีนปิดตัว มาร์จิ้นจึงดีขึ้น ส่วน PET ราคาปรับขึ้น 20 ดอลลาร์ต่อตัน จากไตรมาส 1 ปี 58 เพราะความต้องการในยุโรปและสหรัฐสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน (ความต้องการใช้ขวด PET เพิ่มขึ้น) พร้อมแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 31 บาท

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด คงคำแนะนำ Trading Buy หุ้น IVL ให้ราคาเป้าหมาย 29.50 บาทต่อหุ้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 58 ของ IVL ที่ 2.272 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 813% จากไตรมาสก่อน) นับว่าสูงสุดในรอบ 3 ปี

ขณะเดียวกันมองว่า หลังการเข้าซื้อกิจการ 4 รายการ ได้แก่ โรงงานผลิต PET ของ PTL ในตุรกี, โรงงานผลิต PET ของ BPE ในไทย, Performance Fiber ในประเทศจีน และโรงงาน PTA ของ Cepsa ในแคนาดา แล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกปี 58  ก็จะรับรู้การผลิตเต็มจำนวนในปี 2559  ซึ่งนำไปสู่การปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2558-2559 ขึ้น 11.7-17.8% เป็น 5,235 และ 6,544 ล้านบาท และปรับเพิ่มปริมาณขาย 2.8-7.7% เป็น 6.813 ล้านตันและ 7.361 ล้านตัน ตามลำดับ

 

ด้านราคาหุ้น IVL ปิดตลาดวานนี้ (23 มิ.ย.) อยู่ที่ 27.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.80% มูลค่าการซื้อขาย 148.26 ล้านบาท

Back to top button