TTA คาดผลงานปีนี้โต จ่อเปิดบริการ“ทาโก้ เบลล์”สาขาแรก ดันสัดส่วนรายได้ร้านอาหารแตะ15%

TTA คาดผลงานปีนี้โต จ่อเปิดบริการ “ทาโก้ เบลล์” สาขาแรก ดันสัดส่วนรายได้ร้านอาหารแตะ15%


นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า บริษัท สยาม ทาโก้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ TTA และตระกูลมหากิจศิริได้ร่วมเปิดร้านอาหารทาโก้ เบลล์ สาขาแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24 ม.ค.นี้  โดยตั้งเป้าที่จะเปิดสาขาครบ 40 สาขา ภายใน 5 ปี (62-66) ด้วยงบลงทุนราว 10 ล้านบาทต่อสาขา และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้หากมีสาขาครบ 5-6 สาขา และในส่วนของ TTA ในปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 10%

“จากความความสำเร็จของ TTA ในการบริหารแฟรนไชส์ พิซซ่า ฮัท (Pizza Hut) ที่ได้สิทธิจาก บริษัท ยัม! แบรนด์ส อิงค์  ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์เดียวกันกับทาโก้ เบลล์ ทำให้เรายิ่งมั่นใจว่าทาโก้ เบลล์จะประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดประเทศไทย” นายเฉลิมชัย กล่าว

สำหรับภาพรวมของ TTA ในปี 62 คาดว่ารายได้จะเติบโต 10-15% จากปีนี้ เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจหลักทั้งธุรกิจขนส่งทางเรือ, กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง และกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าธุรกิจขนส่งทางเรือในปีนี้จะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยค่าระวางเรือน่าจะจะทรงตัว หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีค่าระวางเรือเฉลี่ย 11,000 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน เนื่องจากดีมานด์และซัพพลายจะมีความสมดุลกัน แม้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับสงครามทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แต่การค้าระหว่างประเทศด้านอื่นๆ ยังมีการเติบโต ทำให้ความต้องการใช้เรือไม่ลดลง

ขณะที่ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งเองปีนี้จะมีการเติบโตที่ดีขึ้น เนื่องจากจำนวนวันในการให้บริการเข้ามาอย่างเต็มที่ และบริษัทสามารถให้บริการเดินเรือได้ครบ 7 ลำ เพราะไม่มีแผนนำเรือมาเข้าอู่เพื่อซ่อมบำรุงเหมือนในปีก่อน

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ราว 1,500 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายกองเรือเพิ่มขึ้น 2-3 ลำ จากปัจจุบันมีกองเรืออยู่ทั้งหมด 21 ลำ มีขนาดบรรทุกเฉลี่ย 55,285 เดทเวทตัน (DWT) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรือประเภท Handymax และ Supramax ในการขนส่งถ่านหิน, แร่, ซีเมนต์, ปุ๋ย, สารเคมี และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าในปี 62 ปริมาณขนส่งสินค้าเทกองจะเติบโต 2.4% และเมื่อเทียบปริมาณกับระยะทางจะเติบโตขึ้น 2.9%

“ปีนี้เรามองว่าธุรกิจเดินเรือจะยังคงเติบโต แม้ว่าจะมีผลกระทบจากสงครามทางการค้าบ้าง แต่ความต้องการในการขนส่งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของเศรษฐกิจทั้วโลก และจำนวนเรือเข้าสู่จุดสมดุชด้วย ขณะที่ธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งก็กลับเข้ามารับรู้รายได้เต็มที่ เนื่องจากไม่มีการนำเรือเข้าซ่อมบำรุงในปีนี้ สำหรับงบปี 61 บริษัทจะแจ้งตลาดฯ ในวันที่ 28 ก.พ. นี้”นายเฉลิมชัย กล่าว

Back to top button