UAC ทุ่มเงิน 990 ลบ. ร่วมทุนพันธมิตรลาว 50% ลุยโครงการพลังงานขยะเต็มสูบ

UAC ทุ่มเงิน 990 ลบ. ร่วมทุนพันธมิตรลาว 50% ลุยโครงการพลังงานขยะเต็มสูบ


บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) อนุมัติให้บริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุน 50.01% ในบริษัทร่วมทุนใหม่ในลาว เพื่อดำเนินโครงการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ ที่นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาชาธิปไตยประชาชนลาว มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 990 ล้านบาท

โดยคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ Vientiane Waste Management (VWM) ทุนจดทะเบียน 9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 297 ล้านบาท โดยจะจัดตั้งภายในไตรมาส 3/62

สำหรับผู้ร่วมลงทุนในโครงการนอกจากกลุ่ม UAC แล้ว ยังประกอบด้วย บริษัท ศแบง ซัสเทนเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 29.99% โดยเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ศแบง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ประกอบธุรกิจร่วมลงทุนหรือถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนในและต่างประเทศ และบริษัท ขวัญเมืองกรุ๊ป (KMG) ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนในลาว ถือหุ้น 20% โดย KMG เป็นผู้ได้รับสัมปทานขยะมูลฝอยในเวียงจันทน์

ทั้งนี้ โครงการการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ ตั้งอยู่บนที่ดินพื้นที่สัมปทานของผู้ร่วมทุนในลาว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 62 โดย VWM ได้รับสิทธิในสัมปทานที่ดินและบ่อขยะ จากแผนกแผนการและการลงทุน นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นระยะเวลา 45 ปี ซึ่งสิทธิในสัมปทานที่ได้มา โครงการจะได้ขยะชุมชนจากนครหลวงเวียงจันทน์ ปริมาณเริ่มต้นที่ 400 ตัน/วัน

เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบของโครงการ ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์จากขยะชุมชน เพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้กับหน่วยงานภาครัฐ มีกำลังการผลิตประมาณ 6 เมกะวัตต์ (MW), ขายพลาสติกรีไซเคิลให้กับบริษัทเอกชน โดยมีปริมาณการรับซื้อประมาณ 13,200 ตัน/ปี และขายปุ๋ยอินทรีย์เคมีให้กับหน่วยงานภาคเกษตรกรรมของสปป.ลาว โดยมีปริมาณการรับซื้อประมาณ 30,000 ตัน/ปี

โดยเงินร่วมทุนของบริษัทร่วมทุนทั้ง 3 ราย มีจำนวนประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 297 ล้านบาท โดยเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน โดยเงินทุนในส่วนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด มาจากเงินกู้ยืมจาก UAC ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากผลการดำเนินธุรกิจ ส่วนเงินลงทุนที่เหลือ 693 ล้านบาท จะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินเป็นเงินกู้ระยะยาว 7 ปี

สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมด้านพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี และสาธารณูปโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร และยังเป็นการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และระบบการกำจัดขยะในเขตชุมชนในลาว เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7

Back to top button