บลจ.วี เปิดกอง WE- INDIA9M ตั้งเป้าเลิกโครงการ 6%

บลจ.วี เปิดกอง WE- INDIA9M ลงทุนหุ้นอินเดีย มองการปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดียหนุนกำไร บจ. เติบโตหลายกลุ่ม ตั้งเป้าเลิกโครงการ 6% ใน 9 เดือน เสนอขาย 4-6 มิ.ย.นี้


นางสาวงามนภา  ธวัชโชคทวี กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด หรือ บลจ.วี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอบรับความต้องการลงทุนที่หลากหลายจากลูกค้า บลจ.วี ได้นำเสนอกองทุนต่างประเทศมีความน่าสนใจในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นจีน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนที่ต้องการจัดสรรเงินลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ และด้วยตลาดต่างประเทศที่ บลจ.วี มองว่ายังมีโอกาสการลงทุนที่ยังน่าสนใจ ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงมา

ทั้งนี้ บลจ.วี ขอเสนอกองทุนต่างประเทศที่เน้นลงทุนในอินเดีย คือ กองทุน WE- INDIA9M โดยจะเปิดเสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 4-6  มิ.ย. 2562  ถือเป็นกองทุนที่ 5 จาก บลจ.วี ที่เปิดขาย IPO ต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่างประเทศในช่วงนี้

ด้าน นางสาวนิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ บลจ. วี เปิดเผยว่า เศรษฐกิจอินเดียมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยประมาณ 7% อย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจโลกโดยรวมจะเติบโตลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่คาดว่าเศรษฐกิจยังสามารถเติบโตได้จากแรงขับเคลื่อนของภาคการบริโภคในประเทศที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของ GDP

ขณะที่สัดส่วนของการส่งออกมีไม่มาก ทำให้เศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หากเกิดกรณีสงครามการค้าที่รุนแรง นอกจากนี้การเลือกตั้งของประเทศล่าสุดที่จบลงด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้นของนายนเรนทรา โมดี และครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดียว เป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลักดันด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขยายความเจริญ สู่ชนบท ด้านพลังงานทดแทน (Green energy and solar power)  และการพัฒนาด้านโครงข่ายการสื่อสาร

นอกจากนี้ ด้วยโครงสร้างทางประชากรส่วนใหญ่ที่อยู่ในวัยทำงาน ช่วยผลักดันภาคการบริโภคภายในประเทศรวมไปถึงการใช้จ่ายภาครัฐในการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การลงทุนในอินเดียมีความน่าสนใจ

ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มของเศรษฐกิจอินเดียที่คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 7% ต่อปี และเมื่อพิจารณาอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยในระดับประมาณ 12%  ทำให้ตลาดหุ้นอินเดียมีความน่าสนใจ ในช่วงที่ภาวะตลาดยังถูกกดดันจากปัจจัยเรื่องสงครามการค้า  บลจ.วี จึงเปิดขายเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด วี  อินเดีย 9M  (WE- INDIA9M ) ระหว่างวันที่ 4-6 มิ.ย. 2562

โดยกองทุนเน้นลงทุนในกองทุน ETF ที่มีนโยบายลงทุนในประเทศอินเดีย ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตที่ยั่งยืน มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสถาบันการเงิน กลุ่มเทคโนโลยี และพลังงาน

ขณะที่กองทุน WE- INDIA9M  ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการ 6% ใน 9 เดือน โดยกองทุนจะเลิกกองทุนตามเป้าหมายเมื่อมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ผ่านระดับ 10.63 บาท ต่อหน่วยและ NAV ที่รับซื้อคืนขั้นต่ำ 10.60 บาทต่อหน่วย โดยบริษัทจะดำเนินการสับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิด วี มันนี่ มาร์เก็ต ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันถัดจากวันคำนวนราคารับซื้อคืนหน่วยอัตโนมัติ  โดยมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท

ทั้งนี้ กองทุนเปิด WE- INDIA9M  จะใช้กลยุทธ์ลงทุนเชิงรุก (Active Allocation) ด้วยการจัดพอร์ตลงทุนผสมระหว่างหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) และหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (Mid-Small Cap) โดยพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) จะลงทุนในกองทุน UTI India Dynamic Equity Fund ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางประมาณ 50% และ พอร์ตเชิงรุก (Tactical Portfolio) ประมาณ 50%

โดยแบ่งลงทุนในกองทุน iShares India 50 ETF  30% ซึ่งลงทุนในหุ้นอินเดียขนาดใหญ่ 50 ตัวและลงทุนในกองทุน iShares MSCI India Small-Cap ETF ซึ่งลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ประมาณ 20% โดยเน้นจับจังหวะลงทุนในช่วงที่ดัชนีปรับตัวลงและมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนเพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม

ส่วน นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.วี  เปิดเผยว่า นโยบายและการปฏิรูปเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้งอินเดียจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่ง และส่งผลดีต่อกำไรของ บริษัทจดทะเบียน ไม่ว่าจะเป็น 1.) นโยบายการสร้างตลาดแรงงานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มบริโภค 2.) การขยายเขตอุตสาหกรรมและปรับปรุงภาคการผลิต ที่จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม

รวมทั้ง 3.) การพัฒนาเขตชนบท ที่จะเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มก่อสร้างและเทคโนโลยี รวมทั้งช่วยให้เพิ่มความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มบริโภคและการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คาดว่าการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้อยู่ในระดับสูงกว่า 10% ในขณะที่ธนาคารกลางอินเดียยังสามารถควบคุมระดับอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่งผลให้ค่าเงินอินเดียมีเสถียรภาพมากขึ้น และ 4.) การปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค ที่จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค

โดยคาดว่า การเติบโตทางรายได้ของบริษัทจดทะเบียนในอินเดียในระยะต่อไปจากนี้จะอยู่ในระดับสูง ทำให้มูลค่าพื้นฐานของตลาดหุ้นอินเดียอยู่ในระดับที่น่าสนใจและเป็นโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่มีการเติบโตสูงและราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าลงทุน

ในช่วงตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนและปรับตัวลงมา บลจ.วี มองว่า เป็นจังหวะลงทุนใน กองทุน WE- INDIA9M ที่ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 6% ในช่วง 9 เดือน จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนที่ดี ในระยะสั้นจากการลงทุนในต่างประเทศ” นายอิศรากล่าว

Back to top button