“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้ Sideway Up แนะลงทุน 4 กลุ่มหลักเน้นพลังงาน-ได้ประโยชน์บาทแข็ง

“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้ Sideway Up แนะลงทุน 4 กลุ่มหลักเน้นพลังงาน-ได้ประโยชน์บาทแข็ง


บล.เออีซี ประเมินดัชนีวันนี้ (21มิ.ย.62) มอง SET INDEX มีโอกาสปรับขึ้นแบบ Sideway Up กรอบเคลื่อนไหวที่ 1,710-1,730 จุด หลังราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเพราะความตึงเครียดทางทหารระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน คาดมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน

Investment Strategy

ภาพระยะกลางมอง SET Index มีโอกาสแกว่งขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,730 จุด หลังได้แรงหนุนจากสภาพคล่องทางการเงินในต่างประเทศที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งใน จีน และ EU บวกกับผลการประชุม Fed เมื่อคืนแม้ยังคงดอกเบี้ยนโยบายเช่นเดิม แต่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยปีนี้มีปัจจัยที่ยังต้องระวังคือการพูดคุยระหว่างผู้นำสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังประชุม G20 ในช่วงวันที่ 28-29 มิ.ย. นี้ ดังนั้นจึงยังคงแนะนำลงทุนในหุ้นเด่น 4 กลุ่มหลักดังนี้

กลุ่มเนื้อสัตว์: คาดได้อานิสงส์บวกจากราคาเฉลี่ยของเนื้อหมูและเนื้อไก่ในประเทศช่วง 5M62 เพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยของปี 61 ราว 25.9% และ 9.5% ตามลำดับอีกทั้งมีแรงหนุนจากต้นทุนกากถั่วเหลืองนำเข้าที่มีราคาเฉลี่ย 5M62 ลดลงจากราคาเฉลี่ยของปี 61 ราว 4% แนะนำ CPF (ช่วง1Q62 กำไรเติบโต 40.37%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจสุกรของไทยเวียดนามและกัมพูชาปรับตัวดีขึ้นเพราะราคาสุกรที่ลดต่ำลงในปีที่แล้วกลับเข้ามาสู่สภาวะปกติรวมทั้งการบริหารจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพส่วนภาพทั้งปีมองสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ระบาดในประเทศจีนส่งผลให้ราคาสุกรมีแนวโน้มสูงขึ้น) และ TFG (กำไร 1Q62 โต 84.34%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลบวกของราคาหมูและไก่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น  แนวโน้มปี 62 คาดยอดขายทำ New High จากปริมาณขายไก่และหมู ทั้งในและ ตปท.ที่เพิ่มขึ้น ผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตและเจาะตลาดส่งออกใหม่  ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์ตั้งเป้า 2-3 ปีขยายกลุ่มลูกค้านอกเครือข่ายจาก 20% เป็น 50% )

กลุ่มได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น: ด้วยอานิสงส์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นโดย YTD ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯราว 2.13% เทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งปี 61 และ 2QTD ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯราว 0.91% เทียบกับค่าเฉลี่ยช่วง 2Q61 โดยเลือกหุ้นนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ได้ประโยชน์ดังกล่าวจากต้นทุนสินค้าถูกลง ได้แก่ SYNEX (ตั้งเป้าปีนี้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%  โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภทอุปกรณ์สื่อสารและสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลที่มีแนวโน้มเติบโตสูงบวกกับมีแผนเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ทั้ง Gaming, Cloud service, Security และ Internet of Things) และ HARN (คาดกำไรปี 62 เติบโต 12.7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก Backlog ณ สิ้น 1Q62 อยู่ที่ 520.7 ลบ. และมีโอกาสได้งานต่อเนื่องจากโครงการภาครัฐและเอกชน อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันเทรด ForwardPER ปีนี้ที่ระดับ 8.92x)

กลุ่มค้าปลีก: คาดได้ประโยชน์จากการเมืองไทยที่ชัดเจนมากขึ้นบวกกับได้อานิสงส์บวกจากนโยบายกระตุ้น ศก. ของรัฐบาลชุดใหม่ที่คาดมุ่งเป้ามาที่การบริโภคของภาคเอกชนเป็นอันดับต้นๆ แนะนำ CPALL (ตั้งเป้ายอดขายปี 62 โตไม่ต่ำกว่า7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนด้วยแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องที่ 700 สาขา ส่วนภาพใหญ่มีเป้าหมายใหม่ที่จะขยายสาขาให้ครบ 13,000 สาขาภายในปี 2564)

กลุ่มหุ้นกระแสเงินสดแข็งแกร่ง:ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเลือกหุ้นที่มีความมั่นคงทางกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ได้แก่กลุ่มพลังงานทางเลือกแนะนำTPCH (แม้ช่วง 1Q62 กำไรโตเพียง 4.4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีโรงไฟฟ้าหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักร แต่อย่างไรก็ดีมองระยะยาวมีแนวโน้มโตสดใสจากเป้าปี 63 จะเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลเป็น 200 MW และโรงไฟฟ้าจากขยะกำลังการผลิต 50 MW จากปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว 60 MW, โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 49 MW และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 10 MW) และ BAFS (กำไรสุทธิช่วง 1Q62 เติบโต 7.8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้น  4.9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 62 ตั้งเป้ารายได้โต   8-9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป้าปริมาณการเติมน้ำมันโต 4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับเริ่มรับรู้รายได้ท่อส่งน้ำมันบางปะอิน-พิจิตร และเตรียมเข้าประมูลโครงการจัดเก็บและเติมน้ำมันในสนามบินอู่ตะเภา)

Trading Idea

กลุ่มเรือเทกอง: คาดผลประกอบการช่วงไตรมาส2/62 จะฟื้นตัวจากช่วงไตรมาส1/62 หลัง BDIY Index ในช่วง 2QTD ฟื้นตัวกว่า 19.5% เทียบกับช่วงไตรมาส1/62 ซึ่งสูงกว่าการปรับขึ้นของต้นทุนราคาน้ำมันโดย WTI CRUDE FUTURE  ช่วง 2QTD เพิ่มขึ้นเพียง 7.09% เทียบกับช่วงไตรมาส1/62 มองหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ PSL ปัจจุบันเทรด Trailing PBV ที่ระดับ 0.98x

Back to top button