คัด 22 หุ้นพื้นฐานเด่น-ปันผลสูง ลุ้นกำไรไตรมาส 2 โตแจ่มรับมือ SET ผันผวน!

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวกับภาวะตลาดหุ้นไทย ซึ่งมองว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะมีการย่อตัวลง เนื่องจาก Upside ในระยะสั้นจะถูกจำกัดบริเวณ 1,750-1,760 จุด ขณะที่แนะนำลงทุนในหุ้นปลอดภัยที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูง และมีพื้นฐานดี

โดย บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์  ราคาน้ำมันที่ย่อลงมาน่าจะสร้างแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานและ SET Index ส่วนปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาใหม่ ความสนใจยังอยู่ที่เรื่องเดิมคือพัฒนาการของสงครามการค้า และการตั้ง ค.ร.ม. ในประเทศ ประเมินว่า Upside ในระยะสั้นจะถูกจำกัดบริเวณ 1,750-1,760 จุด แนะนำให้ปรับพอร์ตมาเข้าหุ้นที่ให้ Dividend Yield สูง และมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลต่อเนื่อง เลือก KKP (FV@B 75.60) เป็น Top Pick รวมถึง AMATA (FV@B 35.70)

ด้าน บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมีมุมมองเป็นกลาง-ลบคาด SET Index อ่อนตัวลงทดสอบ 1,725 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ โดยแม้ว่าจะมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่องจากคาดการณ์ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุม 30 – 31 ก.ค.62

อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะกลับมาให้ความสนใจผลประกอบการไตรมาส 2/62 ที่เริ่ม Preview และจะประกาศตั้งแต่เดือนก.ค.-กลางเดือนส.ค. ซึ่งภาพรวมของกลุ่มหลัก เช่น ธนาคาร พลังงาน มีโอกาสทรงตัว-อ่อนตัวลงส่งผลให้ดัชนีขาดแรงกระตุ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากความกังวล Demand น้ำมันที่ลดลงจากการผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงความกังวล Trade war ที่ยังไม่จบหลังสหรัฐเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU วงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ จะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

– กลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 2/62 จะเติบโตขึ้น (CPF, GFPT, TFG, CPALL, EA, BGRIM, GPSC, CKP, MTC, THANI, VGI, PLANB)

– กลุ่มขนส่งทางเรือ (PSL, TTA) อานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นต่อเนื่องล่าสุด 1,446 จุด

– กลุ่มนิคมฯและรับเหมา ได้อานิสงส์ความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมถึงโครงการพัฒนาท่าเรืออุตฯมาบตาพุดระยะที่ 3  (AMATA, WHA ,STEC, SEAFCO, CK)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้: CPF (ปิด 29 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 31) ราคาหมูและราคาไก่ในประเทศปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 36 เดือน และ 21 เดือนในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เรามอง Cycle ขาขึ้นรอบนี้จะยาวนานกว่าในอดีต เนื่องจากได้ผลบวกจากการแพร่ระบาดของโรคอะหิวาต์แอฟริกาในจีน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลกำไรกลุ่มธุรกิจเกษตรใน ไตรมาส 2/62 และจะโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/62 เนื่องจากเป็น high season ของธุรกิจ เรายังเลือก CPF เป็น Top pick ของกลุ่ม, GLOBAL (ปิด 18.1 ซื้อ/เป้า 19.5) คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่โดยเฉพาะนโยบายพยุงและปรับเพิ่มราคาสินค้าเกษตรซึ่งจะเพิ่มอำนาจซื้อให้กับประชาชน ส่งผลบวกต่อยอดขายของบริษัท เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิของ GLOBAL จะเติบโตเฉลี่ยที่ระดับ 19% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า