แรงไม่กลัว..กลัวไม่แรง

*ข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงมากสุดคงเป็นเรื่องข่าวลือต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาในตลาดหุ้น ซึ่งมีทั้ง “ข่าวดี” และ “ข่าวร้าย” ปะปนกันไป และขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นในช่วงนั้นอินกับกระแสข่าวเรื่องอะไรเป็นหลัก เดี๊ยนถึงพยายามให้นักเล่นมองภาพการขึ้นลงของตลาดหุ้นไทยให้เป็นธรรมชาติมากสุด เพื่อจะได้เข้าใจสาเหตุที่ดัชนียังวนเวียนไปมาในกรอบ 1,700-1,750 จุดนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงมากสุดคงเป็นเรื่องข่าวลือต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาในตลาดหุ้น ซึ่งมีทั้ง “ข่าวดี” และ “ข่าวร้าย” ปะปนกันไป และขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นในช่วงนั้นอินกับกระแสข่าวเรื่องอะไรเป็นหลัก เดี๊ยนถึงพยายามให้นักเล่นมองภาพการขึ้นลงของตลาดหุ้นไทยให้เป็นธรรมชาติมากสุด เพื่อจะได้เข้าใจสาเหตุที่ดัชนียังวนเวียนไปมาในกรอบ 1,700-1,750 จุดนะจะบอกให้

*วันนี้ถึงไม่ต้องกังวลกับการอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ 1,724.87 จุด ลบไป 2.71 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.21 หมื่นล้านบาท เพราะเมื่อดัชนีลงมาในระดับหนึ่งอย่างเป็นทางการ ก็จะเด้งกลับขึ้นมาเหมือนเช่นที่ผ่านมาอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องข่าวเม้าท์ที่ออกมาจากพวกปากหอยปากปูน่าจะเป็นเพียงลมปาก เพราะเอาเข้าจริงก็คงไม่มีใครรู้ดีกว่ากัน ดัชนีถึงมีอาการอ่อนไหวเหลือเกินไงล่ะคะ

*ประเด็นที่เม้าท์ให้ฟังทั้งหมดถึงนำพาไปสู่การจั่วหัว “แรงไม่กลัว กลัวไม่แรง” หลังเห็นดัชนีแกว่งตัวผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตลอดเวลา (ดัชนีควรวิ่งแรงตั้งนานแล้ว เพราะมีเรื่องผลงานที่ดีขึ้น ต่างชาติอัพเกรดหุ้นไทย) แถมสิ่งที่คิดไว้ก็ไม่สมดั่งใจหมายเสียที ! เดี๊ยนถึงต้องระบายอารมณ์ด้วยคำพูดเพื่อทำให้ทุกคนเห็นไปในทางเดียวกันว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญกับอาการ ตื้อ ๆ ตัน ๆ และภาพแบบนี้น่าจะอยู่กับเราต่อไปอีกพักใหญ่ ๆ เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับความไม่ชัดเจนของพ่อดอกมะลิ JAS จนก่อให้เกิดสงครามข่าวลือตลอดทั้งวัน “โมนิก้า” มองเป็นเกมของกลุ่ม “ผู้ซื้อ” กับ “ผู้ขาย” ซึ่งพยายามนำสตอรี่ต่าง ๆ เข้ามาผูกโยงเข้าด้วยกัน จึงมีการปั่นราคาหุ้นกันอย่างสนุกสนาน เพราะดีลดังกล่าวไม่มีใครหยั่งรู้ถึงใจของ “เฮียพิชญ์” ผสานกับวีรกรรมเก่า ๆ ที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ เลยทำให้แมงเม่าเกิดอาการเข็ดขยาดกันเป็นแถว พร้อมกับป้องปากนินทาดังระงมไปทั่วห้องค้านะจ๊ะ

*วันนี้ถึงไม่ต้องบอกเหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ระดับ 6.30 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 17.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.29 พันล้านบาท เพราะข่าวที่ได้รับการยืนยันในเที่ยวนี้พูดตรงกันว่า ดีลขายหุ้นไม่น่าจะเกิน 6.50 บาท เพราะเป็นระดับที่ให้พรีเมียมแบบสุด ๆ หากให้ราคาสูงกว่านั้น สู้ควักเงินทำเองดีกว่า ! เรื่องนี้ถึงมีสิทธิ์จบลงแบบ “มวยล้ม ต้มคนดู” อิอิอิ

*ส่วนในรายของ TRUE ตกอยู่ในสภาพ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เพราะดันมีชื่อพัวพันกับดีลเทกโอเวอร์พ่อดอกมะลิกับเขาด้วย เมื่อดีลส่อล้มไม่เป็นท่า เลยถูกเทขายกับเขาไปด้วย ทั้งที่ความจริงที่เห็นกันอยู่ในเวลานี้ แวลูของหุ้นก็อยู่ประมาณนี้แหละ ! “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินกันเอาเองว่า การทรุดตัวลงมาปิดที่ 6.40 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.62 พันล้านบาท ใช่จุดที่น่าลงทุนหรือเปล่าเจ้าค่ะ

*สำหรับรายที่หมดสภาพอย่างแบงก์ตราดอกบัว BBL กลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” พุ่งเป้าไปยังเรื่องกำไรไม่ปังเหมือนที่ผ่านมา และเมื่อดูจากแรงเทขายที่มีออกมานานนับสัปดาห์ ก็ตีความได้อย่างเดียวว่า กองทุนไม่เอา ! หุ้นถึงไหลลงแบบไม่มีลิมิต ขนาดวันก่อนเห็นราคาถูกเหลือเกินแล้ว วานนี้ราคาหุ้นกลับทิ้งตัวลงมาปิดที่ 185.50 บาท ลบไป 4.50 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาท เฉยเลยนะนายจ๋า !

*อีกรายที่ทำให้หลายคนรู้สึกกังวลเหลือเกิน “โมนิก้า” คงโฟกัสเป้าไปยังหุ้น IRPC เพราะยังมีอาการนอนซมจากผลพวงพิษไข้ให้เห็นตลอดเวลา ส่งผลให้การขึ้นในแต่ละสเต็ปเต็มไปด้วยความยากลำบาก ขนาดวันก่อนทำท่าจะแก้มือได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่หวาดเสียว วานนี้เลยโดนจัดหนักจนหุ้นไหลลงมาปิดที่ 4.88 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 561 ล้านบาทเสียอย่างนั้น !

*ผิดกับในรายที่ท็อปฟอร์มอย่างหุ้น PTG แบบสิ้นเชิง เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มาจากผลงานสุดปังในไตรมาส 1 และเกี่ยวโยงมาถึงผลงานในไตรมาส 2 อย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 22.80 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.98 พันล้านบาท หลังเห็นกันทนโท่ว่า ยอดขายน้ำมัน บี20 โตวันโตคืนขึ้นเรื่อย ๆ ผนวกกับค่ายรถต่าง ๆ หันมารณรงค์เรื่องนี้มากขึ้น บอกได้ทันทีว่า ยาวไปลูกเพ่ !

*เม้าท์ถึงหุ้นทรงสวยขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมหันไปมองหุ้นน้ำมันกัญชาอย่าง DOD เพื่อวาดภาพให้นักเล่นได้เห็นโอกาสเติบโตจากธุรกิจสกัดน้ำมันมหาศาลเพียงใด และถ้าดูจากความร่วมมือกับหน่วยงานทางการที่ปูทางไว้ก่อนหน้านี้ เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 191 ล้านบาท แถมเมื่อดูจากราคาแปลงวอร์แรนต์ในระดับเกือบ 16 บาท หุ้นน่าจะไปต่อแรงนะคะ

Back to top button