JAS ดีลนี้ใครซื้อแล้วคุ้ม.?

ดูเนื้อหอมขึ้นมาทันตา !! กรณีบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS หลังมีกระแสข่าวสะพัดว่า ยักษ์ใหญ่สื่อสารทั้งไทยและเทศ รุมเจรจาเข้าซื้อกิจการ...


สำนักข่าวรัชดา

ดูเนื้อหอมขึ้นมาทันตา !! กรณีบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS หลังมีกระแสข่าวสะพัดว่า ยักษ์ใหญ่สื่อสารทั้งไทยและเทศ รุมเจรจาเข้าซื้อกิจการ…

ที่ระบุชื่อชัดไล่มาตั้งแต่ บริษัท โคเรีย เทเลคอมมิวนิเคชั่น (KT) ยักษ์ใหญ่สื่อสารของเกาหลี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

ประเด็นที่น่าจับตา ใครซื้อ JAS ไปแล้วคุ้มค่าสุด ??

ถ้าเป็นโคเรีย เทเลคอมฯ น่าจะมีโอกาสมากสุด… (แต่อย่าลืมว่า อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ มันอยู่ที่เกมการต่อรอง)

คำถามที่ตามมา  ถ้าโคเรีย เทเลคอมฯได้ JAS มา จะไป Synergy ธุรกิจกันยังไง ??

ตรงนี้ยังนึกภาพไม่ค่อยออกจริง ๆ…

เบื้องต้นโคเรีย เทเลคอมฯ จะได้ฐานลูกค้าที่ใช้บริการ 3BB มาอยู่ในพอร์ต 3.01 ล้านราย

แต่การเติบโตจากนี้ไปจะยากขึ้น จะไม่เห็นการเติบโตของลูกค้าใหม่ (เหมือนที่ JAS เผชิญปัญหาอยู่ ณ ตอนนี้)

สุดท้ายก็จะไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ JAS เลย…

ส่วนกรณี DTAC อาจมีความต้องการ JAS มากสุด

ด้วยเงื่อนไขที่ว่า ปัจจุบัน DTAC เป็นเพียงค่ายเดียวที่ยังไม่มีธุรกิจบรอดแบนด์…

ดังนั้น หาก DTAC ได้ JAS มาจริง ก็สามารถ Synergy ธุรกิจกันได้ จากการใช้กลยุทธ์การตลาดร่วมกัน

ขณะที่ลูกค้า 3BB สามารถผนวกเป็นลูกค้าของ DTAC ได้

DTAC ก็จะได้ลูกค้าเพิ่มจากการขายแพ็กเกจพ่วงกับ 3BB

ซึ่งจะทำให้ DTAC เติบโตแบบก้าวกระโดด หรือเติบโตแบบอินออร์แกนิค

เป็นเกมธุรกิจที่บีบให้ DTAC จำเป็นต้องได้ JAS

ฟาก ADVANC ก็ถือว่าน่าสนใจ…ในมุม ADVANC หลังประกาศรุกตลาดไฟเบอร์ออฟติก ผ่าน AIS Fiber โดยปีนี้ตั้งเป้ามีลูกค้า 1 ล้านราย

แต่…ดูเหมือนยังมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องการเติบโตของลูกค้าใหม่ที่วันนี้ยังอยู่ที่ระดับ 3 แสนราย

และการลงทุนติดตั้งโครงข่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ระยะสั้นอาจไม่คุ้มค่า..!?

การได้ JAS มา จึงช่วยปลดล็อกข้อจำกัดดังกล่าวให้หมดไป

เพราะนั่นเท่ากับว่า ADVANC ไม่ต้องควักเงินลงทุนโครงข่ายเพิ่มในพื้นที่ ที่มีโครงข่ายของ 3BB อยู่แล้ว แต่ใช้วิธีไปเช่าของ JAS แทน ก็ช่วยผ่อนแรงในการขยายโครงข่ายไปได้เยอะ

แถมจะทำให้พอร์ตลูกค้าใหญ่ขึ้นด้วย…

ที่สำคัญ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโปรดักส์ใหม่ ๆ ได้

จะเห็นว่าแต่ละค่ายต่างมีความจำเป็นที่จะต้องได้ JAS ไปครอง

นาทีนี้ JAS จึงกลายเป็นสาวงามที่เนื้อหอมสุด ๆ (เกมนี้คาดว่าจะอัพค่าตัวได้อีกเยอะ)

ดีลนี้จึงน่าจับตาว่าใครจะได้ไป…

แต่…ไม่ว่าใครจะได้ไป สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน

แต่เป็น “พิชญ์ โพธารามิก” ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่  JAS ที่คงได้เงินเข้ากระเป๋าจากดีลนี้ไปไม่น้อย…

ส่วนที่วานนี้ (23 ก.ค.62) ราคาหุ้น JAS ทรุดหนัก โดยปิดตลาดที่ 6.30 บาท ปรับลดลง 1.30 บาท หรือคิดเป็น 17.11%

เกิดจากมีการประเมินว่า ราคาที่จะซื้อขาย JAS ไม่ควรเกินกว่า 11 เท่าของประมาณการ EBITDA ปี 2563 หรือ 6.66 บาทต่อหุ้น ผสมโรงกับแรงเทขายของบล็อกเทรด นั่นเอง

…อิ อิ อิ…

Back to top button