SINGER โชว์กำไรไตรมาส 2 โตเฉียด 24% หลังเน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูง-คุมต้นทุนต่ำ

SINGER โชว์กำไรไตรมาส 2 โตเฉียด 24% หลังเน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูง-คุมต้นทุนต่ำ


บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) SINGER ประกาศผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยประจำไตรมาส 2/62 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.62 ดังนี้

โดยผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 23.8 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท ขณะที่กำไรต่อหุ้นสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2562 อยู่ที่ 0.14 บาทต่อหุ้น ขณะที่กำไรต่อหุ้นของไตรมาส 2 ปี 2561 อยู่ที่ 0.16 ต่อหุ้น เนื่องจากในเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 บริษัทฯ ได้มีการเพิ่มทุนจำนวน 131,505,235 หุ้น ส่งผลให้จำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของไตรมาสที่ 2 สูงขึ้น 101,157,873.08 หุ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2561

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทพลิกมีกำไร 92.54 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนขาดทุนสุทธิ 142.10 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลดลง 79 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.4 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการลดลงของรายได้จากการขายจำนวน 100 ล้านบาท โดยเป็นการขายทีวีลดลงประมาณ 66 ล้านบาท และตู้เติมเงินประมาณ 28 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ไตรมาสดังกล่าวบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 41.5 ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 เป็นร้อยละ 50.6 ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 เนื่องจากมีการมุ่งเน้นการขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงและให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน โดยจะเห็นว่าจากรายได้จากการขายลดลงร้อยละ 19.6 ในขณะที่ต้นทุนขายสามารถลดลงได้ถึงร้อยละ 32.1

สำหรับค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทมีการบันทึกผลประโยชน์พนักงานจำนวน 14.7 ล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพรบ.คุ้มครองแรงงาน อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมค่าใช้จ่ายยังคงลดลงเป็นจำนวน 90 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.4 โดยมีสาเหตุหลักจากการควบคุมต้นทุนขายและต้นทุนในการจัดจำหน่าย

นอกจากนี้หนี้สินรวมของกลุ่มบริษัทลดลงจำนวน 851 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.8 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561 โดยรายการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ การจ่ายชำระหนี้หุ้นกู้ครบกำหนดจำนวน 500 ล้านบาท

ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มทุนและมีส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญเป็นจำนวนเงินรวม 642 ล้านบาทเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2562

 

Back to top button