บอร์ด JMART เคาะจ่ายปันผลทั้งหุ้น-เงินสด มั่นใจกำไรปีนี้นิวไฮรับผลงานบ.ลูกแกร่งทุกธุรกิจ!

บอร์ด JMART เคาะจ่ายปันผลทั้งหุ้น-เงินสด มั่นใจกำไรปีนี้นิวไฮรับผลงานบ.ลูกแกร่งทุกธุรกิจ!


นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดจะเติบโตต่อเนื่องตามแผน Synergy ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงอนุมัตินำเสนอจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นหุ้นปันผลต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นเดิม 4.26 ต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.0260824 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD 25 กันยายน 2562 และกำหนดจ่าย 10 ตุลาคม 2562

ด้าน นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังมองว่า JMT จะสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เนื่องจาก ในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทฯ จะมีกองหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ที่ตัดต้นทุนครบ เข้ามาสนับสนุนทิศทางรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังให้เติบโตก้าวกระโดด ตั้งเป้าทั้งปีทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เติบโต 50% ทั้งรายได้และกำไร

อีกทั้ง นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด หรือ JAYMART MOBILE ซึ่งเป็นบริษัทแกน เปิดเผยกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่นธุรกิจ เจมาร์ทจัดเต็มโปรโมชั่นและแคมเปญฉลองครบรอบ 30 ปี เฟส 2 เอาใจลูกค้า รวมถึงเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนด์ต่างๆ กระตุ้นความต้องการซื้อ ทั้งนี้ ปัจจุบัน เจมาร์ท โมบาย มีจำนวนสาขารวม 191 สาขา และจะโฟกัสการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมให้มีการเติบโตขึ้น ควบคู่การขยายช่องทางการขายใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อาทิ ขยายฐานลูกค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ การเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ โฟกัสกลุ่ม Gadget เปิดตัวร้าน Jaymart ioT สาขาแรก เพื่อรับโอกาสในยุคเทคโนโลยี ioT และเข้าสู่ยุค 5G ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากที่เจมาร์ทสามารถรุกเพิ่มเติมได้

ด้าน นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยถึง ภาพรวมธุกิจในช่วงครึ่งปีหลัง มองว่าภาพรวมทั้งปีบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมภายใต้ชื่อ Newera ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 70% ของจำนวนห้องทั้งหมด และเตรียมโอนคอนโดมิเนียมให้กับลูกค้าบางส่วนประมาณร้อยละ 50 ที่จอง ในช่วงไตรมาส 4/2562 นี้ และจะโอนต่อเนื่องในปี 2563 ประกอบกับ แผนการก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “The Jas Amata Nakorn” จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1/2563 ตามแผน

ขณะที่ นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และแอปพลิเคชันทางด้านฟินเทค (Fintech) และลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) เปิดเผยว่า แผนพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง หรือ JFIN DDLP แล้วเสร็จ และเริ่มใช้งานแล้วเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา บนแพลตฟอร์ม “ป๋า มาร์เก็ตเพลส” ที่บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนา เพื่อรองรับการกู้ในรูปแบบฟินเทค โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาสนับสนุน พร้อมจับมือบริษัท เจ ฟินเทค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เปิดตัวสินเชื่อรูปแบบใหม่ B2P (Business to Person) ในชื่อ “J Loan Lite” เริ่มเก็บเกี่ยวผลงาน และจะเริ่มรับรู้รายได้ตามกำหนดในปีนี้เข้ามาเป็นอีกแรงสนับสนุนบริษัทในเครือให้แข็งแกร่งในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทยังมีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาอีกมาก เพื่อตอบโจทย์ Digitalized ธุรกิจในกลุ่มเจมาร์ท ทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อ การตามหนี้ด้อยคุณภาพ และการขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้

ด้าน นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดประจำไตรมาส 2/2562 มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% รายได้รวมอยู่ที่ 681ล้านบาท ลดลง 10.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการลดลงของรายได้จากการขาย รายได้จากการให้บริการปรับลดลง แต่ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อและเงินให้กู้ยืมเติบโตขึ้น

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2562 และไตรมาส 2/2561 อยู่ที่ 50.6% และ 41.5% ตามลำดับ จากการมุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ควบคู่กับการคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากรายได้จากการขายลดลง 19.6% ขณะที่ต้นทุนขายสามารถลดลงได้ถึง 32.1% นอกจากนี้ ในงวดไตรมาส 2/2562 กลุ่มบริษัทฯ ได้บันทึกค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน 14.7 ล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพรบ.คุ้มครองแรงงาน แต่โดยภาพรวมค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ยังคงลดลง

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวดครึ่งปีแรก ปี 2562 มีรายได้รวม 1,284 ล้านบาท ลดลง 4.2% และมีกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 142 ล้านบาท และมีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อในส่วนของธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ประมาณ 49% และสินเชื่อสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (รถทำเงิน) และ สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย

รวมกันแล้ว อยู่ที่ 51% ในช่วงครึ่งปีแรก พอร์ตสินเชื่อรถทำเงินยังขยายพอร์ตได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากเพิ่งแล้วเสร็จจากแผนเพิ่มทุนแต่ในช่วงครึ่งปีหลังตั้งแต่ไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป SINGER จะรุกธุรกิจสินเชื่อรถทำเงินได้อย่างเต็มกำลังจากงวดครึ่งปีแรกมีพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินกว่า 1,200 ล้านบาท และมั่นใจสิ้นปี พอร์ตสินเชื่อรถทำเงินจะอยู่ที่ราว 2,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ สนับสนุนผลงานสิ้นปีนี้ผ่านฉลุย โดยมีธุรกิจสินเชื่อรถทำเงินเป็นดาวเด่น ควบคู่กับการขยายอาณาจักร SINGER ให้ครอบคลุมทั่วประเทศยิ่งขึ้น

Back to top button