จับตาหุ้นไทยเปิดกระฉูด! รับราคาน้ำมัน WTI พุ่งแรง 11% เซ่นเหตุโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันซาอุฯ

จับตาหุ้นไทยเปิดกระฉูด! รับราคาน้ำมัน WTI พุ่งแรง 11% เซ่นเหตุโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันซาอุฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทะยานขึ้นกว่า 11% ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วงเช้านี้ หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ณ เวลา 06.21 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 6.12 ดอลลาร์ หรือ 11.16% แตะที่ระดับ 60.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

ด้านกระทรวงมหาดไทยของซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งในเขต Abqaiq และ Khurais ด้วยโดรน จนเป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้ โดยโรงกลั่นทั้งสองแห่งเป็นของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย

ขณะที่เจ้าชายอับดุลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า เหตุโจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซ 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ตัวเลขล่าสุดที่โอเปกเปิดเผยเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ผลผลิตทั้งหมดของซาอุฯ อยู่ที่ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน เท่ากับว่าผลผลิตจะหายไปถึงราวครึ่งหนึ่ง หรือคิดเป็น 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก

รายงานล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ มีคำสั่งให้ปล่อยน้ำมันจากสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ของสหรัฐ หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเปิดกระโดดขึ้นได้กว่า 10 จุด เล็งขานรับสถานการณ์โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันหายไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สเช้านี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10% แล้ว โดยขณะนี้ก็มาเทรดอยู่แถว 61 เหรียญฯ/บาร์เรล ทำให้น่าจะไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีขึ้นนำตลาดฯได้ในวันนี้

นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าในประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ด้วย โดยจีนอาจยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าถั่วเหลือง และเนื้อหมู จากสหรัฐฯ ทำให้ลดความตึงเครียดการเจรจาการค้าลงได้บ้าง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ปรับตัวทั้งในแดนบวกและลบ

อย่างไรก็ดี นักลงทุนจะต้องระวังแรงขายด้วย เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวขึ้นเร็ว ซึ่งจะทำให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้นลดลง

อีกทั้งสัปดาห์นี้ให้ติดตามการประชุมของหลายธนาคารกลาง โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการประชุมในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ก็ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีน และสหรัฐฯด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,655-1,656 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675-1,680 ถัดไป 1,695-1,700 จุด

Back to top button