เปิดหุ้นถูก แถม Yield สูง

มุมมองของการนำเครื่องมือทางการเงินเฟ้นหาหุ้นถูก พร้อม Yield สูง นำมาใช้อาจเป็นโอกาสทำกำไร หรือมีความปลอดภัยกว่าหุ้นอื่น ๆ ยามตลาดมีความผันผวน


เส้นทางนักลงทุน

ยามนี้ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยเข้มข้น ! ถึงขั้นต้องวิเคราะห์เป็นรายวัน และทางกูรูต้องปรับเป้าส่วนของแนวรับและแนวต้าน SET ใหม่เป็นช่วง ๆ …เนื่องด้วยยังมีปัจจัยรอบด้านให้ติดตาม โดยเฉพาะปัจจัยหลักจากภายนอกแทรกแซงต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยภายในที่ใกล้เข้ามาว่าด้วยเรื่องการประกาศงบไตรมาส 3/2562 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยออกในสัปดาห์หน้า

เอาเป็นว่า ล่าสุดวานนี้ทางดัชนี SET กลับดีดตัวขึ้นมาปิดบวกได้ 1,616.18 จุด บวกไป 4.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42,242.42 ล้านบาท ถือว่ายังค่อนข้างเบาบางอยู่ และมองว่าวอลุ่มการซื้อขายยังคงเบาบางต่อไปอีกระยะกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะมีความชัดเจน ประกอบกับมีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม

ถือว่าการปิดบวกของดัชนี SET วานนี้ยังไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก และอาจไม่ชัดเจนทางด้านขาขึ้นนัก เพราะเชื่อว่าระยะสั้นยังคงแกว่งตัวไซด์เวย์กรอบจำกัด อีกทั้งยังคงติดแนวต้านแถว 1,620-1,630 จุด อีกระยะหนึ่งไปก่อน ก่อนจะไปลุ้นอีกที่แนวต้าน 1,650 จุดในระยะถัดไป

ดังนั้นจากการวิเคราะห์ เชื่อว่าดัชนี SET ยังคงแกว่งตัวผันผวนไร้ทิศทางต่อไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน

ท่ามกลางบรรยากาศตลาดหุ้นยังมีความผันผวน…การเฟ้นหาหุ้นปลอดภัยจึงเป็นปัจจัยหลัก ทั้งนี้จึงใช้เทคนิคบนหลักพื้นฐานมาช่วย โดยการหยิบยกเครื่องมือทางด้าน ค่า P/E ต่ำ–ค่า P/BV ต่ำ–ค่า PEG ต่ำ และหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูง เข้ามาเพื่อเป็นทางเลือกอีกด้วย

เนื่องจาก….

  • หุ้นที่มีค่า P/E ต่ำ คือหุ้นถูก ดังนั้น การซื้อหุ้นที่มีราคาถูกน่าจะมีโอกาสกำไรมากกว่าซื้อหุ้นที่แพง
  • หุ้นที่มีค่า P/BV ต่ำยิ่งดี หรือมีค่าน้อยกว่า 1 เท่าได้ยิ่งดี ถือว่ากำลังเจอของดีที่น่าลงทุน
  • ค่า PEG Ratio มักจะถูกนำมาใช้วิเคราะห์พื้นฐานหุ้น ซึ่งตามปกติที่ค่า PEG Ratio ดีควรจะต่ำกว่า 1 เท่า เพราะค่า PEG Ratio ที่ต่ำกว่า 1 เท่า ก็คือการที่อัตราการเติบโต (Growth) มีค่าสูงกว่า P/E หรือแปลได้อีกความหมายก็คือ บริษัทมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าราคาหุ้น หรือหุ้นยังมีราคาต่ำกว่าความสามารถในการเติบโตของหุ้น
  • อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูง ! นอกจากจะใช้เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน จากเงินปันผลของหุ้นที่มีราคาต่างกันแล้ว ยังสามารถใช้เป็นปัจจัยในการเปรียบเทียบหุ้นนั้น ๆ กับการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่น เช่น หุ้นกู้ การฝากเงิน หรือพันธบัตร

ทั้งนี้ทาง “ข่าวหุ้นธุรกิจ” จึงรวบรวมหุ้นที่เข้าเกณฑ์มาเป็นตัวอย่างในการตัดสินใจการลงทุนช่วงตลาดหุ้นผันผวน…ตามกลยุทธ์ คือ ค่า P/E ต่ำกว่า 12 เท่า ตามอนุรักษนิยม หรือต่ำกว่า P/E ของตลาด ประกอบกับค่า P/BV ต่ำกว่า 1.50 เท่า รวมถึงค่า PEG ต่ำกว่า 1 เท่า และที่สำคัญอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงกว่า 4%

ผลจากสำรวจ พบว่ามีหุ้น ROJNA, PSH, ANAN, PF, NER, KTB และ PTTEP เป็นต้น โดยตัวเลขที่ปรากฏดังนี้

บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA พบว่ามีค่า P/E ที่ 7.81 เท่า ขณะที่ค่า P/BV ที่ 0.92 เท่า ส่วนค่า PEG ที่ 0.04 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 9.92%

บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH พบว่ามีค่า P/E ที่ 5.78 เท่า ขณะที่ค่า P/BV ที่ 0.86 เท่า ส่วนค่า PEG ที่ 0.42 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 9.45%

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN พบว่ามีค่า P/E ที่ 4.99 เท่า ขณะที่ค่า P/BV ที่ 0.61 เท่า ส่วนค่า PEG ที่ 0.20 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 8.30%

บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF พบว่ามีค่า P/E ที่ 5.33 เท่า ขณะที่ค่า P/BV ที่ 0.53 เท่า ส่วนค่า PEG ที่ 0.05 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 8.05%

บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER พบว่ามีค่า P/E ที่ 6.45 เท่า ขณะที่ค่า P/BV ที่ 1.38 เท่า ส่วนค่า PEG ที่ 0.04 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 5.28%

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB พบว่ามีค่า P/E ที่ 8.02 เท่า ขณะที่ค่า P/BV ที่ 0.74 เท่า ส่วนค่า PEG ที่ 0.47 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 4.25%

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP พบว่ามีค่า P/E ที่ 10.32 เท่า ขณะที่ค่า P/BV ที่ 1.28 เท่า ส่วนค่า PEG ที่ 0.07 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 4.24%

มุมมองของการนำเครื่องมือทางการเงินเฟ้นหาหุ้นถูก พร้อม Yield สูง นำมาใช้อาจเป็นโอกาสทำกำไร หรือมีความปลอดภัยกว่าหุ้นอื่น ๆ ยามตลาดมีความผันผวน

การเป็นนักลงทุนที่สามารถเอาชนะตลาดได้ต่อเนื่องต้องการมากกว่าแค่เก่งกับเฮง !!!!

Back to top button