สูตรซ้ำซากแก้ ศก.

รัฐบาลตีปี๊บ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผล วันหยุดอาเซียนมีคนไปใช้จ่ายผ่าน “ชิม ช้อป ใช้” เพียบ เม็ดเงินจะลงถึงร้านค้าย่อยและวิสาหกิจชุมชน มาตรการลดค่าโอนค่าจดจำนอง ก็ทำให้คนแห่กู้ซื้อบ้าน


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

รัฐบาลตีปี๊บ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผล วันหยุดอาเซียนมีคนไปใช้จ่ายผ่าน “ชิม ช้อป ใช้” เพียบ เม็ดเงินจะลงถึงร้านค้าย่อยและวิสาหกิจชุมชน มาตรการลดค่าโอนค่าจดจำนอง ก็ทำให้คนแห่กู้ซื้อบ้าน

จริงหรือ บ้านราคา 3 ล้าน ค่าโอนค่าจดจำนอง 90,000 ลดเหลือ 600 ฟังแล้วน่าซื้อจัง แต่ก็สำหรับคนมีกำลังซื้อและต้องการซื้ออยู่แล้วเท่านั้น คนกู้ไม่ผ่านก็ไม่ผ่านเหมือนเดิม มีคำถามด้วยว่าทำไมลดเฉพาะบ้านคอนโดจัดสรร ทำไมไม่ช่วยประชาชนที่ซื้อขายบ้านมือสอง ธุรกิจอสังหาปั๊มบ้านคอนโดออกมาล้นเกิน ใกล้รถไฟฟ้าหน่อยก็ปั่นราคา น่าจะรับผิดชอบตัวเอง คือเจ๊งเสียบ้าง เหมือนธุรกิจอื่นเขาเจ๊งกัน ทำไมรัฐบาลต้องอุ้มอยู่ร่ำไป

มาตรการเหล่านี้กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงไหม เพิ่มวันหยุด หวังให้ข้าราชการที่ไม่ต้องขยันทำงาน หรือคนชั้นกลางที่มีเงินออม ควักออกมาใช้จ่ายท่องเที่ยว มาตรการหว่านเงิน หวังกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งความจริงไม่เป็นอย่างนั้น คนส่วนใหญ่เอาเงินพันไปซื้อของจำเป็นที่จะต้องซื้ออยู่แล้ว

ถามจริง ใน 13 ล้านคน มีสักกี่คนที่คิดว่าได้เงินรัฐบาล ก็ช่วยซื้อกระเป๋า OTOP ส่วนใหญ่ก็ซื้อสบู่ยาสีฟันในห้าง ของต้องซื้ออยู่แล้วทั้งนั้น นักเศรษฐศาสตร์จึงชี้ว่าเงินพันจะทำให้ประชาชนใช้จ่ายเพิ่มแค่ 300-400 หมุนรอบตัวยังไม่ครบ ไม่ได้หมุนหลายรอบอย่างวาดฝัน

รัฐบาลมีไอเดียอื่นไหม ที่จะแก้เศรษฐกิจ ทำไมใช้แต่มาตรการซ้ำซาก ลดแหลกแจกแถม ซึ่งไม่น่าจะรับมือไหว กับสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลง คาดกันว่าปีหน้าจะยิ่งแย่ ต่อให้ กนง.ลดดอกเบี้ย ก็ไม่แน่จะเอาอยู่

อย่ามัวฝันหวานว่าเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น สงครามการค้าจีน สหรัฐฯ จะผ่อนคลาย วิกฤติเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ น่าจะยังวนลูปอีกหลายปี ไม่เห็นทางออกง่าย ๆ ปั่นป่วนไปถึงการเมือง เช่น ชิลี เอกวาดอร์ เลบานอน ประท้วงความเหลื่อมล้ำต้านมาตรการรัฐบาล ม็อบฮ่องกงก็ผสมทั้งเศรษฐกิจการเมือง

วิกฤติโลกรอบนี้ไม่จบง่าย หรือไม่งั้นก็ชินไปเอง มีแต่พวกโลกสวยโลกปั่นขายฝันปีหน้าปีโน้นจะดี

คำถามน่าคิดคือ ทำไมหน่วยงานต่างๆ จึงวิเคราะห์เศรษฐกิจผิดหมด สศค.เพิ่งลด GDP เหลือ 2.8 จากต้นปี 4.0 แล้วค่อยๆ ลดเหลือ 3.8 3.0 สุดท้าย 2.8 ไม่รู้ปลายปีเหลือเท่าไหร่

จะว่า สศค.โกหก ปั้นตัวเลข ก็ไม่ใช่ เพราะไม่ได้ผิดสำนักเดียว สภาพัฒน์ แบงก์ชาติ แบงก์เอกชน ไปจนธนาคารโลก ทั้งไทยทั้งฝรั่ง นักวิเคราะห์เก่งๆ ทั้งนั้น ผิดหมด แล้วจะเชื่อใครได้

ในฐานะที่ไม่เชื่อมาแต่ต้นว่าเศรษฐกิจปีนี้จะดี ก็อดหัวเราะไม่ได้ และอดสงสัยไม่ได้ ว่าทฤษฎีที่ใช้กันอยู่ผิดหมด

คำถามต่อไปคือ จะกระตุ้นกันอยู่อย่างนี้หรือ แบบที่ IMF พบอุตตม แล้วให้ท้ายเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทั้งที่ควรจะเห็นปัญหาศักยภาพพัฒนาไม่ขึ้น ยิ่งมายิ่งแย่ ระบบต่าง ๆ เช่นราชการอันใหญ่โต ยิ่งมายิ่งเป็นภาระ แบบจะปฏิรูปการศึกษายิ่งเทอะทะ ผู้บริหารทะเลาะกัน

หรือรัฐบาลไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้ กระตุ้นให้คนใช้จ่ายแล้วตีปี๊บไปวัน ๆ ดีใจเมื่อโพลบอกว่าคนชอบชิมช้อปใช้ ปัดโธ่ แจกฟรีมีใครไม่ชอบ แต่จะชอบรัฐบาลไหมเป็นอีกเรื่อง

อีกวิธีก็พยายามบอกประชาชนให้มองโลกแง่ดีไว้ จะได้กล้าใช้จ่าย แบบยอดขายรถยนต์ลดลง ก็ยังปลอบใจว่าคนรอซื้ออัลติส ดีแมกซ์ เดี๋ยวยอดก็กลับมา

ทั้งหมดนี้เหมือนรอแทงหวย รอเศรษฐกิจโลกดี แล้วหน้าบาน แต่ถ้าตรงกันข้ามก็โทษทรัมป์โทษโน่นนี่เรื่อยเปื่อย

 

Back to top button