ยันอยู่ ?

*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ผู้คนในตลาดหุ้นต้องมา “นั่งลุ้น นอนลุ้น” ให้ดัชนีเด้งกลับขึ้นไปสวย ๆ หลังจากโดนเทขายหุ้นออกมาตลอดเวลา จนทำให้ภาพของการเคลื่อนตัวออกไปในโทนแกว่งตัวลงอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นใจในการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ และจะปล่อยให้เรื่องพรรค์นี้ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ เพราะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เลยนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ผู้คนในตลาดหุ้นต้องมา “นั่งลุ้น นอนลุ้น” ให้ดัชนีเด้งกลับขึ้นไปสวย ๆ หลังจากโดนเทขายหุ้นออกมาตลอดเวลา จนทำให้ภาพของการเคลื่อนตัวออกไปในโทนแกว่งตัวลงอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นใจในการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ และจะปล่อยให้เรื่องพรรค์นี้ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ เพราะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เลยนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับผลงานของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ออกมาในโทน “ทรุด” มากกว่า “ทรง” เลยทำให้ดัชนีจวนเจียนจะหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,600 จุดอยู่รอมร่อ ย่อมเป็นแรงกดดันที่ทำให้แรงซื้อก้อนใหม่เกิดอาการชะงักงัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองไปที่เรื่องของจุดเหมาะสมของดัชนีในช่วงปลายปีควรอยู่ระดับไหน ? เพื่อจะได้กำหนดการเล่นให้คล่องตัวขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ

*เนื่องจากการอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 1,602.23 จุด ลบไป 7.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.45 หมื่นล้านบาท พร้อมกับแสดงอาการกระเสาะกระแสะให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นความเสี่ยงสำหรับคนที่มีต้นทุนสูงเป็นทุนเดิม และทำให้การเล่นหุ้นในเที่ยวนี้พุ่งเป้าไปยังหุ้นไฟฟ้ามากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น เพราะเป็นหุ้นเพียงกลุ่มเดียวที่เห็นทิศทางในการโตชัดสุดในจังหวะนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นก็ม่อยกระรอกไม่เป็นท่านะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ CK อ่อนตัวลงมาแบบช้า ๆ จนกระทั่งประกาศกำไรไตรมาส 3 ลดลงฮวบ แรงเทขายก็พรั่งพรูออกมาตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายหุ้นปิดไปที่ระดับ 18.60 บาท ลบไป 1.80 บาท หรือลงไป 8.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท “โมนิก้า” เม้าท์ได้ในทันทีว่า ราคาหุ้นคงไม่หยุดลงเพียงเท่านี้แน่ ๆ เพราะในช่วงปลายปีไม่มีงานอะไรเด่น ๆ เพื่อบันทึกรายได้ก้อนโตเข้ามาน่ะซี

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปดูหุ้นสื่อสารค่ายสีแดงอย่าง TRUE เพื่อบอกเล่าถึงไส้ในตัวเลขกำไรที่แสดงออกมาในเที่ยวนี้ พอเอาเข้าจริงก็เป็นการบันทึกบางอย่างเข้ามาเพื่อให้มีกำไร เลยทำให้ผลงานจริง ๆ มีผลขาดทุนสอดไส้เคลือบคาราเมล บรรดาม้าแก่ชำนาญทางถึงกระหน่ำขายหุ้นไม่คิดชีวิตเช่นกัน จนหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 4.56 บาท ลบไป 0.49 บาท หรือลงไป 9.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.62 พันล้านบาทแบบนี้ ฟื้นยากแล้วล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นบันเทิงเริงรำ WORK โดนนักเล่นขาประจำทุบหนักแบบไม่ต้องเกรงใจ “เสี่ยตา” กันอีกต่อไป ผนวกกับบรรดาแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า รายการใหม่ที่เข็นออกมาไม่โดนใจคนดูทีวี เลยทำให้รายได้โฆษณาไม่เข้าเหมือนแต่ก่อน ผนวกกับเอาแต่รายการเก่า ๆ มาฉายซ้ำหลายรอบ กำไรเลยรูดมหาราชอย่างน่าไม่น่าเชื่อ ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานตอบรับด้วยการรูดลงมาปิด 15 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 5.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 240 ล้านบาทแบบนี้..หมดเสน่ห์ไปอีกรายเจ้าค่ะ

*คล้ายกับในรายของ STA พอกำไรไม่มาเหมือนที่คาดหวัง แรงเทขายก็ถล่มไม่เลี้ยงกันเลยก็ว่าได้ จนราคาหุ้นเซลงมาปิดที่ 9.80 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องเข้าใจธรรมชาติของสินค้าโภคภัณฑ์ มักขึ้นอยู่กับราคาในตลาดโลกเป็นขาขึ้นหรือยัง ? หากยังไม่ถึงวงรอบของธุรกิจดังกล่าว อย่าหวังจะเห็นกำไรเป็นกอบเป็นกำ และราคาหุ้นจะขึ้นไปได้ไกลเลยพะยะค่ะ

*ข้อมูลดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเชื่อมโยงไปยังหุ้น SUPER เป็นรายถัดไปในทันที ขนาดทำผลงานได้อย่างสวยงาม กลับมีแรงเทขายถล่มออกมาไม่หยุดหย่อน จนราคาหุ้นลงมาปิดที่ 0.56 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 6.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 300 ล้านบาท แถมเป็นการเทรดบนค่า P/E 16 เท่า โดยความเสี่ยงในการทำธุรกิจค่อนข้างต่ำแบบนี้ เดี๊ยนถึงกล้ามองเป็นจังหวะของชาวสวน ส่วนใครที่มีอาการป๊อดจะถอยฉากไปก่อนก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ

*ขนาดหุ้นลีสซิ่งทำผลงานแจ่มอย่างหุ้น THANI ยังถูกเทขายทุกวี่ทุกวัน จนเดี๊ยนสงสัยว่า ไปเอาของที่ไหนมาขาย ? จนล่าสุดหุ้นลงมากองอยู่ที่ 5.65 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไปเกือบ 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนยืนอยู่แถว ๆ 7.50 บาท “โมนิก้า” ย่อมเกิดอาการลังเลใจในการแนะนำให้ช้อนหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต เพราะปัจจัย “พื้นฐาน” สวนทางกับ “ราคา” ในกระดานอย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องการให้นักเล่นตัดสินใจกันเอาเองว่า อยากจะทำจังใด..ก็รีบลงมือนะจ๊ะ

Back to top button