CIMBT ปักหมุดปีนี้รายได้-กำไรโต 10% วางแผนคุม NPL ไม่เกิน 5.4%

CIMBT ปักหมุดปีนี้รายได้-กำไรโต 10% วางแผนคุม NPL ไม่เกิน 5.4%


นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 63 เติบโต 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,501.6 ล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนหักภาษีคาดเติบโตเป็น 3,300 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 1,943 ล้านบาท แต่เมื่อคำนวณตามมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 ปีก่อนจะมีกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 3,153 ล้านบาท ซึ่งจะคิดเป็นการเติบโต 10% เช่นกัน

รวมถึงคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 14,032 ล้านบาท จากสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 11.8% จากปีก่อนที่หากคิดตามมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 จะเติบโต 6.5% โดยวางเป้ายอดสินเชื่อปล่อยใหม่ปีนี้จะมาจากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่คาดว่าจะเติบโตราว 11.3% ซึ่งจะทำให้ยอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 63 จะอยู่ที่ 159,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 143,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธนาคารยังตั้งเป้าเงินฝากจะเติบโตได้ 16.4% จากปีก่อนที่คิดตามมาตรฐานบัญชีใหม่จะเติบโตราว 7.5% ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) ปีนี้จะอยู่ 3.8% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดตามมาตรฐานบัญชีใหม่ฯ อยู่ที่ 3.6% รวมถึงตั้งเป้าควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้ให้ลดลงเหลือ 5.4% จากปีก่อนคิดตามมาตรฐานบัญชีใหม่ฯ อยู่ที่ 5.7% เป็นผลมาจากการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ได้ดีขึ้นต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ ธนาคารยังมีเป้าหมายปรับธุรกรรมทางการเงินในกลุ่มลูกค้ารายย่อยให้เป็นดิจิทัล 100% เช่น การขอ Statement, การเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม เป็นต้น และยกเลิกการใช้สมุดบัญชี (No Book) 100% รวมถึงสนับสนุนให้ลูกค้าเวลมีเงินออม เงินลงทุนเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 120,000 ราย จากเดิมอยู่ที่ 80,000 ราย ขณะที่ตั้งเป้าการสมัครสินเชื่อผ่านช่องทางมือถือเพิ่มขึ้น 42% จากปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งการสมัครสินเชื่อผ่านทางมือถืออยู่ที่ 14%

สำหรับการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในปี 63 จะอยู่ราว 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ที่ 2,522 ล้านบาท โดยเป็นการรวมหนี้ NPL และมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 แล้ว

“เรามองว่าเศรษฐกิจปีนี้ไม่ได้แย่ ซึ่งเราคาดว่าจะเติบโตได้ 3% จากปีก่อน ทำให้สินเชื่อน่าจะเติบโตไปได้ตามเป้าหมาย โดยเราก็จะไปแย่งมาร์เก็ตแชร์จากแบงก์อื่น และการที่เรามีดิจิทัลด้วย ซึ่งพอร์ตสินเชื่อรายย่อยปัจจุบันเรามีลูกค้าอยู่จำนวน 400,000 ราย เงินฝาก 300,000 ราย ตั้งเป้าเพิ่มอีก 60,000-70,000 ราย โดยการเพิ่มตรงนี้จะมุ่งไปในแอพพลิเคชันมากขึ้น จากเดิมเรามีลูกค้าบนแอพพลิเคชันอยู่ที่ 100,000 ราย และมีการแอคทีพ 75,000 ราย”นายอดิศร กล่าว

โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าจะเป็นผู้นำ 4 ด้าน ได้แก่ DIGITAL, ASEAN, WEALTH และ CUSTOMER EXPERIENCE (CX) โดยในเร็ว ๆ นี้จะเปิดบริการใหม่คือ M0LE LENDING ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกคำสามารถสมัครขอสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อทะเบียนรถด้วยตัวเองผ่านมือถือ โดยใช้เวลาสมัครเพียง 5 นาที รู้ผลอนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง และกรณีพนักงานประจำจะใช้เวลาติดตามผลการสมัครภายใน 6 ชั่วโมง ปล่อยสินเชื่อได้สูงสุด 120% ของราคาประเมินรถยนต์ พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ชำระค่างวดสะดวกด้วย QR Code

นอกจากนี้ ธนาคารจะเปิดให้บริการ DEBT CONSOLIDATION เป็น APPLICATION รวมหนี้ เพื่อให้ประชาชนบริหารจัดการหนี้ โดยรวมหนี้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรกดเงินสต สินเชื่อส่วนบุคคล จากสถาบันการเงินต่างๆ แล้วทำการรีไฟแนนซ์หนี้มาที่ CIMBT ด้วยดอกเบี้ยเริ่มดัน 11.84% ซึ่งถูกลง ช่วยแบ่งเบาภาระหนี้และช่วยให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น สามารถปิดหนี้ก่อนครบกำหนด หลัง 12 เดือน ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายปิดก่อนกำหนด สามารถเลือกผ่อนรายเดือนน้อยลง โดยเลือกผ่อนชำระสบายๆ 24 เดือน 36 เดือน หรือ 60 เดือน ลดต้นลดดอกทันที เป็นความร่วมมือของธนาคารกับ NEO MONEY พร้อมเปิดตัวภายในไตรมาส 1/63

ทั้งนี้เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารฯ พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 62 ในเดือนก.พ.63 หลังมีกำไรสุทธิในปี 62 อยู่ที่ 1,501.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,494.7 ล้านบาท หรือ 261 เท่า สูงสุดในรอบ 10 ปี โดยที่ผ่านมาธนาคารจ่ายเงินปันผลล่าสุดเมื่อปี 56 จำนวน 0.005 บาท/หุ้น

 

Back to top button