KAsset เปิดขายกองทุน 12-18 ก.พ. ผลตอบแทน 2.6%

KAsset เปิดขายกองทุน 12-18 ก.พ. ผลตอบแทน 2.6%


นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย (KAsset) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดขายกองทุน KAB22A ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศแบบกำหนดอายุโครงการไปเมื่อปลายปี 62 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยสามารถระดมทุนได้สูงกว่า 3,400 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ต.ค. 62) ประกอบกับในช่วงนี้ตลาดโลกยังคงมีความผันผวนและมีแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาลง ดังนั้น การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตของผู้ลงทุนได้

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท เอเซียน บอนด์ 2022B (KAB22B) โดยยังคงชูจุดเด่นในเรื่องการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนในทุกรายไตรมาส อีกทั้งผู้ลงทุนยังไม่ต้องเสียภาษีตราสารหนี้ เนื่องจากเป็นการลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ (Feeder Fund) ซึ่งมีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์ 2563

สำหรับกองทุน KAB22B มีระยะเวลาลงทุน 2 ปี 6 เดือน และประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 2.20% ต่อปี – 2.60% ต่อปี โดยได้ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2020 – III, Class C(USD) – MD1 ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 50 – 120 ตราสาร ทั้งในระดับกลุ่มประเทศ อุตสาหกรรม และอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk) และความเสี่ยงจากการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Downgrading Risk)

โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) อย่างน้อย 70% และตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment Grade) ไม่เกิน 30% ผ่านกลยุทธ์การลงทุนแบบถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนไว้จนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ กองทุนหลักบริหารจัดการโดย Invesco Hong Kong Limited ผู้เชี่ยวชาญตราสารหนี้ทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่มีประสบการณ์ในการบริหารตราสารหนี้มากกว่า 20 ปี และมีสินทรัพย์ในส่วนของตราสารหนี้กว่า 372,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ผ่านมาทีมบริหาร Invesco Fixed Income สามารถบริหารกองทุนตราสารหนี้สร้างผลตอบแทนได้ตามที่คาดหวัง และยังไม่เคยมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้

ตลาดตราสารหนี้เอเชียยังคงได้รับแรงหนุนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชีย และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาภูมิภาคเอเชียจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าภูมิภาคอื่น แต่ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเช่นกัน อย่างไรก็ดี ตลาดตราสารหนี้เอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการผิดนัดชำระหนี้ต่ำเพียง 0.48% ทั้งนี้ จากอัตราผลตอบแทนทั่วโลกที่ลดลง ส่งผลให้ผู้ลงทุนมุ่งหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for yield) และเน้นลงทุนในประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย

อีกทั้งการประเมินมูลค่า (Valuation) ของตราสารหนี้เอเชียยังเข้าลงทุนได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับทรงตัว อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรติดตามความผันผวนค่าเงินเอเชียในระยะสั้นโดยเฉพาะค่าเงินหยวน หลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” นายนาวินกล่าว

โดยกองทุน KAB22B เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่ากองทุน Term Fund และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ Non-Investment Grade ได้ โดยกองทุน KAB22B มุ่งจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในทุกรายไตรมาส ผ่านการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ (Auto Redemption) ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง

Back to top button