MALEE พลิกเกม! บุกจีน-รับงาน OEM หนุนโตแรง

แม้ประเดิมงบในไตรมาส 1 ปี 2568 ได้ไม่ดีนัก สำหรับหุ้นน้ำผลไม้MALEE ซึ่งรายงานกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท ลดลง 42%


คุณค่าบริษัท

แม้ประเดิมงบในไตรมาส 1 ปี 2568 ได้ไม่ดีนัก สำหรับหุ้นน้ำผลไม้ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ซึ่งรายงานกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท ลดลง 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท สาเหตุมาจากกำไรขั้นต้นที่ลดลง

โดยในไตรมาสนี้ มียอดขายรวม 1,820 ล้านบาท ลดลง 17% แบ่งเป็นยอดขายของธุรกิจตราสินค้าของบริษัทฯ (Branded Business: Brand) อยู่ที่ 770 ล้านบาท ลดลง 3% ส่วนยอดขายของธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing Business: CMG) อยู่ที่ 1,022 ล้านบาท ลดลง 26% ขณะที่สัดส่วนยอดขายของ Brand และ CMG เท่ากับ 43 : 57 เปรียบเทียบกับ 36 : 64 ในไตรมาส 1/2567

แต่จุดที่น่าสนใจ MALEE ยังมีสตอรี่เชิงบวกที่จะหนุนการเติบโตในระยะถัดไป เริ่มจาก 1) เป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) กาแฟกระป๋องแบรนด์ Nescafe ให้กับค่ายเนสท์เล่ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2568 กำลังการผลิต 60-70 ล้านบาทต่อไตรมาส และในอนาคตมีโอกาสที่จะได้รับ Order เพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันสินค้า Nescafe ที่พบได้ตามท้องตลาดผลิตโดยบริษัทควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส (QCP) และนำเข้าจากประเทศมาเลเซียที่มีต้นทุนขนส่งสูงกว่า

และ 2) มีการบุกตลาดน้ำมะพร้าวในประเทศจีนมากขึ้น ล่าสุดเปิดตัว “จางหลิงเฮ่อ” นักแสดงและนักร้องชาวจีนซึ่งเป็น Brand Ambassador ของแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ในฐานะ APAC Brand Ambassador คนแรกของ MALEE เพื่อรุกขยายตลาดน้ำมะพร้าวแบรนด์ MALEE ในประเทศจีน ซึ่งผลตอบรับเป็นไปในทิศทางบวก

ปัจจุบันมีการจำหน่ายสินค้าทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีแผนจะขยายช่องทางการจำหน่ายออฟไลน์เพิ่มเติมในอนาคต ทั้งนี้ คาดทั้งสองปัจจัยจะหนุนการเติบโตของ MALEE อย่างมีนัยสำคัญ

สอดคล้องกับมุมมองของ บล.กรุงศรี ที่ยังคงมุมมองกำไรปกติในไตรมาส 2/2568 ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโตจากไตรมาสก่อน แม้ในไตรมาส 2/2567 จะเป็นฐานสูง ทว่าภายใต้ผลตอบรับบนยอดขายน้ำมะพร้าวแบรนด์ MALEE ในจีนที่เป็นไปในทิศทางเชิงบวก รวมถึงมีการรับงาน OEM สินค้ากลุ่มชาและกาแฟเข้ามาเพิ่มเติมเต็ม คาดยอดขายสามารถเติบโตสูงกว่า SG&A ที่เพิ่มขึ้นได้ บนการฟื้นตัวของกำไรปกติแบบ V-shape ในลักษณะ Step-up ทุกไตรมาส (Q1<Q2<Q3<Q4)

สำหรับมุมมองระยะกลาง-ยาว ยังคงคาดการพลิกฟื้นแบบเทิร์นอะราวด์ มองกำไรในปี 2568-2569 เติบโตเฉลี่ยปีละ 16% (CAGR) ตามอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ 100% กลับมาฟื้นตัว โดยปัจจุบัน MALEE ยังสามารถครองมาร์เก็ตแชร์น้ำผลไม้ไทยอันดับ 1 ได้ รวมถึงหนึ่งในสินค้าหลักของ MALEE อย่างน้ำมะพร้าวอยู่ในอุตสาหกรรมเด่นของไทยที่เติบโตสูงระดับ 30%

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น MALEE ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 11.58 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 15.23 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด อย่างไรก็ตาม ถ้าดู P/BV ที่ระดับ 1.23 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.06 เท่า

Back to top button