BAM แรงไม่หยุด! พุ่งอีก 8% ทุบสถิติออลไทม์ไฮต่อเนื่อง-คาดเก็งงบฯ Q4 กำไรทะลัก 1.5 พันลบ.

BAM แรงไม่หยุด! พุ่งอีก 8% ทุบสถิติออลไทม์ไฮต่อเนื่อง-คาดเก็งงบฯ Q4 กำไรทะลัก 1.5 พันลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM  ณ เวลา 15.36 น. อยู่ที่ระดับ 35.00 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 7.69% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.09 พันล้านบาท โดยราคาทุบสถิติสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดต่อเนื่อง

โดยแหล่งข่าวจากตลาดทุน เปิดเผยว่า บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM จะมีการประกาศงบไตรมาส 4/2562 และงบประจำปี 2562 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยไตรมาส 4/2562 BAM จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นค่อนข้างดีมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และทั้งปีก็จะเพิ่มขึ้น โดยจะมีการบันทึกรายได้จากการขายโครงการไทยเมล่อน

“กำไรในไตรมาส 4/2562 จะดีกว่าปีก่อน ส่วนปีนี้บริษัทจะรักษาอัตรากำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่แบงก์ทยอยปรับลดดอกเบี้ยลง” แหล่งข่าว กล่าว

ทั้งนี้ จากการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ที่ผ่านมา จะส่งผลดีต่อ BAM ในการรับชำระหนี้ได้ดีขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 50%  และเชื่อว่าผลประกอบการทั้งปีจะเติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มเซ็นทรัล ซื้อที่ดินไทยเมล่อนจาก BAM เพิ่ม 145 ไร่ มูลค่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดินโรงงานไทยเมล่อนโปลีเอสเตอร์เดิม ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามโรงกษาปณ์

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า BAM ได้เงินจากการขายที่ดินแปลงใหญ่ให้กับ Central Group มูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนนี้จะถูกบันทึกเข้ามาในงบการเงินไตรมาส 4/2562  ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรสุทธิพุ่งสูงขึ้นมากในไตรมาสนี้  เมื่อรวมกับรายได้แบบ recurring ที่สม่ำเสมอ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิของ BAM ในไตรมาส 4/2562 จะอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิปี 2562 จะอยู่ที่ประมาณ 6.2-6.4 พันล้านบาท คิดเป็น EPS ที่ 1.9-2.0 บาท

นอกจากนี้  BAM มีรายได้ที่ยังไม่ได้รับรู้อีกประมาณ 9 พันล้านบาท (เงินได้ที่ยังไม่ได้รับจากการประมูลสินทรัพย์ด้อยคุณภาพโดยกรมบังคับคดี) ซึ่งส่วนหนึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564-2565 ซึ่งเป็นเงินที่เหลือหลังจากกรมบังคับคดีจ่ายคืนแล้ว 5 พันล้านบาทในงวด 9 เดือนปี 2562

อย่างไรก็ตามสิทธิพิเศษที่ได้รับยกเว้นภาษีในฐานะที่เป็นรัฐวิสาหกิจจะสิ้นสุดลงในปี 2562 หลังจากที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน SAM เหลือ 45% ดังนั้น บริษัทจึงต้องจ่ายภาษีเงินได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะกดดันแนวโน้มกำไรของบริษัทในปี 2563

และคาดว่ารายได้ดอกเบี้ยจากการปรับโครงสร้างหนี้ และรายได้ยังไม่รับรู้จากกรมบังคับคดีจะมีจำนวนมากพอที่จะทำให้กำไรปี 2563 ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  ทั้งนี้จากสถิติในอดีตของบริษัทที่จ่ายปันผลในอัตรามากกว่า 70% ทำให้คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าจะอยู่ที่อย่างน้อย 4% (ภายใต้สมมติฐานว่าจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำที่ 40%)

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมิน BAM กำไรปกติปี 2562 ที่ 6.6 พันล้านบาท  เพิ่มขึ้น 27% เทียบกับปีก่อน  จากการขาย NPLs ขนาดใหญ่ในไตรมาส 1/2562 และการขายโครงการไทยเมล่อนในไตรมาส 4/2562

โดย ณ สิ้นปี 2561 มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 47% และ NPLs และ NPA ของบริษัทมีการขยายตัวในระยะยาวที่ 2559-2562 CAGR ที่ 3.4% และ 12.2% จึงแนะนำ “ซื้อ” BAM ให้ราคาเป้าหมาย 30 บาทต่อหุ้น อิง 2563  P/BV 2.1 เท่า  BAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ NPLs/NPA รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ AMC

Back to top button