‘พี่กอง’ อีกแล้ว

วานนี้กลุ่มนักลงทุนสถาบัน (กองทุน) เทขายหุ้นออกมาอีกแล้ว


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้กลุ่มนักลงทุนสถาบัน (กองทุน) เทขายหุ้นออกมาอีกแล้ว

เบ็ดเสร็จสุทธิกว่า  4,112 ล้านบาท

ประเด็นในการขายไม่น่ามีอะไรมาก นอกจาก “ปรับพอร์ต” หรือขายทำกำไรตามปกติ

เพราะปัจจัยลบเรื่องไวรัสโคโรนาดูแล้วเริ่มควบคุมได้มากขึ้น

อย่างตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ส่วนใหญ่ปิดแดนบวก

เช่นเดียวกับหุ้นฝั่งยุโรป ที่เปิดตลาดมา ก็อยู่ในแดนบวกทั้งหมดเช่นกัน หลังจากผ่านคลายความกังวลเรื่องไวรัสฯ

ดังนั้น กองทุนที่ขายออกมาจึงไม่น่าจะมาจากปัจจัยลบต่างประเทศ

ส่วนในประเทศก็ไม่ได้มีอะไรมาก

และสิ่งที่เป็นปัจจัยลบ ต่างก็รับรู้กันไปก่อนแล้ว ทั้งเรื่องจีดีพี สถานการณ์ท่องเที่ยว การตัดสินจะยุบหรือไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ ในวันที่ 21 ก.พ.นี้

ที่ผ่านมาเวลาหุ้นลงหนัก ๆ หรือจะหลุดแนวรับสำคัญ

เรามักจะเห็นผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) รวมถึงของสำนักงาน ก.ล.ต.

ต่างออกมาเตือนนักลงทุนว่าอย่า “แพนิก”

ทว่า ทุกครั้งที่หุ้นลงหนัก ๆ เราจะเห็นกลุ่มกองทุน “แพนิก” ก่อนเลย

เทขายกันออกมาสนุกสนาน

ดังนั้น ต่อไปหากหุ้นลงหนัก ๆ อีก แนะนำ ตลท. กับ ก.ล.ต. สายตรงไปยังกลุ่มกองทุนโดยตรงเลย

เพราะรายย่อยพวกเขาก็พร้อมบู๊ หรือลุยกันอยู่แล้ว

อ้อ…. วานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิด้วยกว่า 2,479 ล้านบาท

แต่ยังไม่แน่ใจว่า จะเกี่ยวกับ “บิ๊กล็อต” กว่า 945 ล้านบาท ที่ราคาหุ้นละ 100 บาท ของหุ้น ไทยพาณิชย์ หรือ SCB หรือเปล่า

กลับมาที่พี่กอง หรือกองทุนกันต่อ

ในช่วงที่ตลาดผันผวน

ต้องยอมรับว่า พี่กองเล่นหุ้นกันแบบ “เดย์เทรด” มาก ๆ

เผลอไม่ได้…

สบช่องเป็นสาดออกมาก่อนเลย

หลังจากนั้น ก็ค่อย ๆ กลับเข้าไปเก็บหุ้นตัวเดิมที่ตัวเองสาดออกมา หรือไม่ก็เปลี่ยนตัวเล่นไปเรื่อย

วานนี้ พอกองทุนซัดออกมา เริ่มจากการเปิดตลาดในช่วงภาคบ่าย

ส่งผลให้หุ้นหลาย ๆ ตัวที่ราคาเกินพื้นฐาน

หรือถูกมองว่า ราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างสูง

ต่างถูกเทขายกันออกมาค่อนข้างมาก

ประกอบกับคงกังวลเรื่องที่ว่าดัชนีจะหลุด 1,500 จุดหรือไม่ เพราะวานนี้ลงไปต่ำสุด 1,501 จุด เฉียดฉิวไปเหมือนกัน

แน่นอนล่ะ หากดัชนีหลุด 1,500 จุด ย่อมส่งผลทำให้เกิดเซนติเมนต์ไม่ดีนัก

และอาจมีแรงขายจากนักลงทุนที่แพนิก ต่างทยอยขายหุ้นกันออกมาเพื่อตัดขาดทุนกันไว้ก่อน

หากดัชนีหลุด 1,500 จุด ก็ไม่ต้องไปดูว่าเกิดจากอะไร หรือไปโทษใคร นอกจากพอร์ตของกองทุนนั่นแหละ เดี๋ยวซื้อ เดี๋ยวขาย ทำให้หลายครั้งสัญญาณทางเทคนิคเพี้ยนไปเลย

นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงวานนี้ (19 ก.พ.)

นักลงทุนสถาบันขายสุทธิออกมาแล้ว  10,431 ล้านบาท

ส่วนต่างชาตินี่ก็ (ยัง) ขายสุทธิเช่นกันกว่า 27,602 ล้านบาท

และรายย่อยซื้อสุทธิกว่า 36,094 ล้านบาท

แต่ก็อย่างว่าล่ะ พอเข้าใจได้ว่า การขายของกองทุนและต่างชาติ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปรับลดความเสี่ยง จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อาจจะออกมาไม่ดีนักในปี 2563

จนส่งผลให้หลายโบรกฯ เริ่มทยอยปรับลดประมาณการกำไรของ บจ.ปีนี้ลง

แต่ตัวเลขทั้งหมดนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

จนกว่า บจ.จะแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 4 กันออกมาทั้งหมด

ถึงตอนนั้น ก็คงจะพอรู้ว่า

หุ้นตัวไหน ควรถือ และซื้อ หรือตัวไหนจะต้องขายออกไป

Back to top button