“เทิดศักดิ์”มองนายกหยุดหน้าที่ชั่วคราวแค่ Overhang ระยะสั้น ชี้สภาพิจารณางบปี 69 ต่อได้

โบรกเกอร์มอง SET ภาคบ่ายปรับตัวลง แค่ Overhang ชั่วคราว ปม "แพทองธาร" หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล-สภายังเดินหน้าทำงานต่อได้ ชี้ยังไม่มีผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ


ผู้สื่อข่าวรายงานจากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9 ต่อ 0 รับคำร้อง และมีมติ 7 ต่อ 2 สั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีมีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาที่พาดพิงถึงบุคคลในกองทัพไทย รวมถึงมีลักษณะบ่งชี้ถึงการบั่นทอนอธิปไตยของชาตินั้น นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ได้ให้มุมมองและวิเคราะห์สถานการณ์ดังกล่าวว่า ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอน หรือ ความเสี่ยงทางการเมืองปรับระดับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างคำว่า “ปฏิบัติราชการแทน” กับ “ปฏิบัติหน้าที่แทน” ซึ่งมีขอบเขตอำนาจทางกฎหมายที่ไม่เหมือนกัน คำถามสำคัญ คือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนมีอำนาจในการยุบสภาได้หรือไม่ ซึ่งเป็นตัวที่มีอิทธิพลกับตลาดอย่างมาก แม้ว่าในเชิง Valuation (มูลค่า) ของตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในระดับที่ “ถูกมาก” แต่ประเด็นสำคัญ คือ ความไม่แน่นอนที่ขวางอยู่ข้างหน้ามีเต็มไปหมด ทำให้แรงซื้อไม่สามารถเข้ามาพยุงและผลักดันราคาให้ปรับขึ้นไปได้ ด้วยเหตุนี้ ตลาดจึงยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความไม่แน่นอนไปอีกระยะหนึ่ง

แต่ถ้ามองในมุมการทำงานของรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัตินั้น นายเทิดศักดิ์ เห็นว่า การทำงานของสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้รับผลกระทบและยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ โดยเฉพาะการพิจารณากฎหมายสำคัญ และงบประมาณปี 2569 เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลฯ เป็นเพียงการรับเรื่องไว้พิจารณาในส่วนของตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ภาครัฐก็ต้องมีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีขึ้นมา ซึ่งคาดว่าจะเป็นรองนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 1 ที่จะขึ้นมาทำหน้าที่แทน

จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนดังกล่าว นายเทิดศักดิ์ ยังคงแนะนำให้ Wait & See หรือระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากปัจจัยหลักคือความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในตลาดและอาจส่งผลให้ระดับแนวรับเดิมของ SET ที่ 1,050 จุด เผชิญกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้

ด้าน นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงภาคบ่าย ดัชนี SET Index มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากแรงกดดันด้านการเมืองในประเทศ โดยคาดการณ์ว่า ดัชนี SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลงก่อนจากความกังวลเรื่องดังกล่าว ดังนั้น มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับเดิมบริเวณ 1,053 จุด

ส่วน นายกรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์ (Vice President) สายงานวิจัย (ลูกค้ารายย่อย) บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุถึง ประเด็นศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและสั่งนายกหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ว่า SET Index มีการปรับตัวลดลงบ้าง แต่คาดว่าอาจจะไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนจำนวนหนึ่งมองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าน่าจะมีการรับคำร้องและนำไปสู่การ “หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว” โดยคะแนนเสียงของตุลาการรัฐธรรมนูญอยู่ที่ 7 ต่อ 2

กรณีนี้ จึงน่าจะเป็นการเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของกระบวนการ ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1–3 เดือน จึงจะได้ข้อยุติขั้นสุดท้าย ดังนั้น ปัจจัยทางการเมือง ณ จุดนี้จึงอาจเป็นเพียง Overhang ชั่วคราว

ขณะที่ นักลงทุนจะเริ่มกลับมากังวลกับคำถามถัดไป เช่น ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากนี้ จะเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ และในช่วงระหว่างนี้จำเป็นต้องมี นายก รักษาการหรือไม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้อาจเป็นแรงกดดันให้ตลาดมีแรงขายออกมาบ้าง

ส่วนกรอบดัชนีที่คาดไว้ คือ แนวรับบริเวณ 1,080–1,060 จุด ซึ่งน่าจะพอประคองได้ ส่วนกรอบล่างสุดอาจอยู่ที่ประมาณ 960 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดช่วงโควิด-19

หากมองไปข้างหน้า การเมืองจะส่งผลบวกต่อตลาดในกรณีที่มีความชัดเจน เช่น การยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากพรรคเพื่อไทยยังเดินหน้าต่อและเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีโดยไม่ยุบสภา ก็อาจไม่สามารถคลี่คลายความไม่มั่นใจในตลาดได้มากนัก นักลงทุนจะยังคงมีความกังวลอยู่

Back to top button