1,000 จุดยังไหว

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

อีกครั้งที่เขียนถึงแนวรับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ระดับ 1,000 จุด

สังเกตว่า ในวันที่ดัชนีร่วงลงมาใกล้ระดับดังกล่าวนั้น

จะเห็นแรงซื้อกลับค่อนข้างมาก

และที่น่าสนใจคือ เป็นแรงซื้อที่มาจากนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก

นั่นหมายความว่า หุ้น (ขนาดใหญ่) หลาย ๆ ตัวมีผลต่อการขึ้นและลงของดัชนีในแต่ละวัน ราคาน่าจะลงมาในระดับที่ค่อนข้าง “ถูก” แล้วล่ะ

ทว่า คำว่า “ราคาถูก” นี้ เขาประเมินจากสถานการณ์ของโควิด-19 ที่น่าจะเป็นไปตามที่คาดกันไว้ด้วยนะ

เช่น สถานการณ์น่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 หรืออย่างช้าไตรมาส 3 ปีนี้

แต่หากสถานการณ์เลวร้ายลง

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังดำเนินต่อไป และไม่รู้ว่ากรณีแย่สุดอยู่ตรงไหน

ดัชนีระดับ 1,000 ก็น่าจะรับไม่ไหว

มีโอกาสร่วงลงไปต่ำกว่านั้นแน่นอน

ส่วนเมื่อวานนี้ที่ดัชนีหุ้นไทยดีดขึ้นมา (บวก 46.19 จุด)

เป็นการวิ่งขึ้นมาตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก หุ้นเอเชีย และหุ้นยุโรปที่เปิดตลาดขึ้นมาต่างบวกมากกว่า 3-4%

ของเรานั้นก็บวก 4.47%

ถือว่าไม่ขี้เหร่ซักเท่าไหร่

แม้ว่าระหว่างวันดัชนีสามารถขึ้นไปถึงระดับ 1,099 จุด (บวก 66.10 จุด)

ทว่า ก็มีแรงขายทำกำไรกันออกมา ยังพอที่จะทราบคร่าว ๆ เกี่ยวกับรายละเอียดใน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ศ.2548)

เข้าใจว่า นักลงทุนยังคงรอรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเป็นอย่างไรบ้าง

นักวิเคราะห์ก็ปูเสื่อเฝ้ารออยู่เช่นเดียวกัน

หากมาตรการที่ออกมาไม่ไปกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ก็ไม่น่าจะเป็นปัจจัยลบ หรือไปกดดันตลาดหุ้นมากนัก

กิจกรรมที่ว่านี้ เช่น การประกาศเคอร์ฟิว ที่อาจมีการห้ามออกจากเคหสถานโดยไม่จำเป็น

ล่าสุด รัฐบาลได้ออกมาบอกว่า วันนี้ (26 มี.ค.) ยังไม่มีเคอร์ฟิวแน่นอน

แต่ต่อไปหากมีการประกาศใช้ ก็อาจใช้แบบ 24 ชั่วโมง (มีข้อยกเว้นให้)

แน่นอนว่า หากสถานการณ์แย่ลงไปอีก

โอกาสที่ตลาดหุ้นจะร่วงลงมา ย่อมมีความเป็นไปได้สูง

อย่าลืมว่า หุ้นที่ขึ้นมารอบนี้ทั้งของนิวยอร์ก เอเชีย และไทยนั้น ต่างขึ้นมาขานรับกับมาตรการของทางการสหรัฐฯ

และเม็ดเงินจากหลายธนาคารกลางที่อัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ

และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนก็ดีขึ้นมากแล้ว

ส่วนของประเทศไทยสภาพคล่องทางการเงินเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากที่แบงก์ชาติได้ออกมาช่วยเหลือ และมีความชัดเจนในเรื่องพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

แนวโน้มวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะไปต่อได้ หากดาวโจนส์ยังคงวิ่งขึ้น และหุ้นยุโรปปิดตลาดร้อนแรง

อ้อ…. ราคาน้ำมันดิบทั้ง Brent Spot และ WTI ต้องบวกด้วยนะ

นักวิเคราะห์มองว่า หากยังไม่มีปัจจัยลบอะไร

ดัชนีอาจดีดต่อและขึ้นไปยืนเหนือ 1,100 จุดได้

แต่หากมีปัจจัยลบเข้ามา ดัชนีก็จะวกกลับ และกลับมาเล่นรอบกันบริเวณ 1,020–1,050 กันต่อไป

เข้าใจว่า น่าจะวนเวียนกันไปแบบนี้สักพักใหญ่

จนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องโควิด-19 ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง

หากยังแย่ลง ต่อให้มาตรการออกมาจัดชุดใหญ่แค่ไหน ก็คงดึงตลาดหุ้นไว้ไม่อยู่

แต่หากควบคุมการแพร่ระบาดได้

ดัชนีตลาดหุ้นคงแรลลี่กันยาว ๆ