HANA บวก 3% ลุ้นงบฯไตรมาส 1 ดีกว่าคาด-รับผลดีตปท.เริ่มคลายล็อคดาวน์

HANA บวก 3% ลุ้นงบฯไตรมาส 1 ดีกว่าคาด-รับผลดีตปท.เริ่มคลายล็อคดาวน์ ล่าสุดอยู่ที่ 27.75 บาท บวก 1 บาท หรือ 3.74% มูลค่าซื้อขาย 36.56 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ล่าสุด ณ เวลา 10.15 น. อยู่ที่ 27.75 บาท บวก 1 บาท หรือ 3.74% สูงสุดที่ 28.25 บาท ต่ำสุดที่ 27 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 36.56 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” HANA งบไตรมาส 1/63 อาจแย่น้อยกว่าคาด แนวต้านแรก 28.25-30 บาท สำหรับการ Lockdown ในจีนทำให้ supply chain ของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ถูกกระทบหนักในไตรมาส 1/63 เพราะจีนเป็นผู้ supply ชิ้นส่วนมากถึง 50% ของโลก

โดยคาดเบื้องต้นกำไรไตรมาส 1/63 ลดลง 49% เมื่อเทียบจากไตรมากส่อน และลดลง 6% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 285 ล้านบาท เพราะ supply chain หายไปและการขนส่งถูกตัดขาด แต่มีลุ้นอาจดีกว่าคาดเพราะได้บาทอ่อนช่วย

อย่างไรก็ตาม โรงงานในจีนกลับมาเปิดตั้งแต่ ก.พ. สหรัฐและยุโรปกำลังทยอยเปิดสถานที่ HANA จะกลับมาฟื้นเร็วและแรงเพราะกลุ่มสินค้าหลักคือ Smartphone และ PC ที่คำสั่งซื้อถูกเลื่อนมาเพราะ COVID-19       

ด้าน นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน มองกรอบดัชนีเคลื่อนไหวในระดับ 1,250-1,285 จุด แม้จะได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐบังคับใช้มาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็ก และโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ และธนาคารกลางของแต่ละประเทศประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมทั้งการเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ เพื่อรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ในบางพื้นที่ อาทิ สหรัฐ อังกฤษ อิตาลี รวมทั้งประเทศไทย

ล่าสุดศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้พิจารณาการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน ในส่วนของมาตรการผ่อนปรนการล็อกดาวน์ต่าง ๆ นั้นจะอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้ โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นหลัก โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.นี้

พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิจัยได้แนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ดักลงทุนในหุ้นได้ประโยชน์หากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย โดยทยอยสะสมกลุ่มท่องเที่ยว AOT, MINT, ERW และ CENTEL หากโควิด-19 ดีขึ้น น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยกลับเข้ามาเที่ยวประเทศไทย

รองลงมาได้แก่หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, SPRC และ PTTGC จากผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 1/63 ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนจาก Stock Loss

สุดท้ายหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น KCE, HANA และ DELTA ซึ่งกลับมาเร่งผลิตสินค้าเพิ่มเติม หลังสต็อกสินค้าที่ลดลงอย่างมาก หลังจากหยุดผลิตในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19

Back to top button