“ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ DOHOME เป้า 15 บ. ชูกำไรไตรมาส 4 พุ่ง – D/E ลด

“ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ DOHOME เป้า 15 บ. ชูกำไรไตรมาส 4 พุ่ง – D/E ลด


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME พร้อมกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 15 บาท

SSSG เดือน พ.ย. พลิกกลับมาบวกแล้ว คาดกำไรไตรมาส 4/63 ยังโตดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ล่าสุด SSSG เดือน พ.ย. พลิกกลับมาบวกราว +8% จากปีก่อน จากเดือน ต.ค.ที่ -5% – 6% จากปีก่อน เพราะมีฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และคาดเดือน ธ.ค. จะยังทรงตัวเป็นบวกได้ต่อเนื่อง เพราะปกติเป็นเดือนที่ดีที่สุดในไตรมาส กอปรกับกลับมาฟื้นตัวหลังสภาพอากาศดีขึ้น หนุนให้จำนวน Traffic ลูกค้ารายย่อยดีขึ้น และงานโครงการ (ทั้งภาครัฐและเอกชน) เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง คาด SSSG ไตรมาส 4/63 อาจปิดบวกเล็กน้อยราว 2% – 3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ภาพรวม Product Mix ยังอยู่ในเกณฑ์ดีใกล้เคียงไตรมาสก่อน และคาดสัดส่วนสินค้า House Brand จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 17% – 17.2% จาก 16.9% ในช่วง 9 เดือนแรกปี 63 เพราะไตรมาส 3/63 มีปัญหาสินค้า House Brand ส่งของมาล่าช้า น่าจะยังทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวได้ใกล้เคียงไตรมาส 3/63 ที่ระดับ 16.8% เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 อยู่ที่177 ล้านบาท (-5.9% จากไตรมาสก่อน  , +16.4% จากปีก่อน)

สมมติฐานการเปิดสาขาใหม่ของเรา ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท

ทั้งนี้ ยังคงสมมติฐานแผนเปิดสาขาใหม่ในปี 2564  ตามเดิม เพราะสอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ของบริษัท ที่มีการปรับลดแผนสาขาขนาดเล็ก To Go ลง โดยจะมีสาขาสิ้นปี 2563 ที่ 13 แห่ง (FSS คาด 12 แห่ง) และจะเปิดอีก 15 แห่งในปี 2564 ปรับลงจากเดิมที่เคยตั้งเป้าเปิด 75 แห่ง (FSS คาดเปิด 16 แห่ง) ส่วนสาขาขนาดใหญ่ size L คงเป้าเดิมที่ 4 แห่ง ได้แก่ แหลมฉบัง (เปิดเดือน ก.พ. 64), บ่อวิน ชลบุรี (มิ.ย. 64), อมตะ ชลบุรี (ไตรมาส 3/64) และสุราษฎร์ธานี (ไตรมาส 4/64) ซึ่งจะเป็นสาขาแรกในภาคใต้ของบริษัท และจะเป็นคลังรองรับการขยายสาขาในภาคใต้ต่อไป

โดยทั้ง 4 สาขาบริษัทได้เตรียมที่ดินรองรับไว้หมดแล้ว และเป็นการเช่าทั้งหมด และยังคงเป้าการเพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand ไว้ตามเดิมที่ 20% ในปี 2022 จาก 17% ในปี 2020 เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2563-64 ไว้ตามเดิมที่ 688 ล้านบาท (-1.9% จากปีก่อน) และ 899 ล้านบาท (+30.6% จากปีก่อน) ตามลำดับ และคงราคาเป้าหมายที่ 15 บาท

คาด D/E Ratio จะลดลงสิ้นปี 2563

สำหรับ D/E Ratio ที่สูงขึ้นในไตรมาส 3/63 มาอยู่ที่ 1.97 เท่า จากสิ้นปี 2562 ที่ 1.8 เท่า (ส่วน IBD Ratio อยู่ที่ 1.43 เท่า) ถือว่าใกล้ Debt Covenant (กับธนาคาร) ที่ห้าม D/E เกิน 2 เท่า แต่มีสาเหตุมาจากเงินกู้ระยะสั้นที่ถูกใช้สำหรับการ Stock สินค้าที่เพิ่มขึ้น สำหรับสาขาใหม่ และที่เตรียมไว้สำหรับการเข้าสู่ฤดูกาลของการขายในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว คาดว่าสิ้นปี 2564 ระดับ D/E น่าจะลดลงอยู่ในระดับ 1.6-1.7 เท่า

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารหลายแห่งในการขอขยาย Debt Covenant Level ที่ปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับเข้มงวดพอสมควร (เป็นเงื่อนไขที่กำหนดมาก่อนเข้าตลาดฯ) รวมถึงอาจพิจารณาการออกหุ้นกู้ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

Back to top button