จับตาราคา JMART พุ่งแรง! รับข่าวผนึก “กุกมิน” บุ๊กหนี้คืนทันที 2.8 พันลบ.

จับตาราคา JMART พุ่งแรง! รับข่าวผนึก “กุกมิน” บุ๊กหนี้คืนทันที 2.8 พันลบ.


นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Investment Holding Company เปิดเผยถึง ความสำเร็จในบริษัทร่วมลงทุน KB Kookmin Card Co., Ltd บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตการ์ด และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเป็นบริษัทการเงินรายใหญ่ภายใต้ KB Financial Group จากประเทศเกาหลีใต้ ร่วมลงทุนในบริษัท เจ ฟินเทค จำกัด (J Fintech) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 650 ล้านบาท ซึ่งกระบวนการร่วมทุนดังกล่าวแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ KB Kookmin Card จะเข้ามาถือหุ้นใน บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ในสัดส่วนถือหุ้นร้อยละ 49.99% ส่วนบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) คงเหลือถือหุ้น 45.09% และบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) คงเหลือถือหุ้น 4.92% จากเดิมกลุ่มเจมาร์ทถือหุ้นทั้งหมด 100% นับเป็นความสำเร็จครั้งแรกของธุรกิจการเงินในประเทศไทย ที่มีสถาบันการเงินชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ เข้ามาลงทุนธุรกิจการเงินในประเทศไทยในบริษัท Non-Bank เพื่อขยายฐานลูกค้า และต่อยอดการเติบโตร่วมกัน

ทั้งนี้ บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ที่มีความเข้มแข็งจากการ Synergy ภายใต้ Ecosystem ทางการเงินของบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท โดย KB Kookmin Card เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจบริการทางการเงินในประเทศไทย นำเอาระบบเทคโนโลยีในการบริหารทางการเงินที่ทันสมัยมาใช้ สนับสนุนให้เจฟินเทคมีต้นทุนทางการเงินในการทำธุรกิจที่ต่ำ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น ด้วยเป้าหมายเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ของธุรกิจสินเชื่อ และบัตรเครดิตในประเทศไทย

อย่างไรก็ดี ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลดีต่อเจฟินเทคแล้ว ยังสนับสนุนฐานะทางการเงินของ JMART ให้แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจาก เจมาร์ท จะได้รับเงินกู้ยืมที่ให้กับบริษัทเจฟินเทค คืนจาก KB Kookmin Card กว่าอีกประมาณ 2,800 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1/2564 นี้ โดยเงินดังกล่าวบริษัทเตรียมความพร้อมในการเป็น Investment Holding Company ที่มองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติบโตในอนาคต

นายอดิศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย เรามีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีกและการเงิน เป็น Investment Holding Company มีธุรกิจที่แตกต่าง โดยเป็นผู้นาในธุรกิจด้านการเงิน ค้าปลีก และเทคโนโลยี ทาให้กลุ่มบริษัทมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง สามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจบริหารหนี้ของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จากัด (มหาชน) (JMT) ที่มีความโดดเด่น เป็นกลุ่มบริษัทแรกๆ ที่เข้ามารุกตลาดบริหารหนี้จนประสบความสาเร็จ และปัจจุบันเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพแบบไม่มีหลักประกันรายใหญ่ของประเทศ

อีกทั้ง บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรรายอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เนื่องจากความโดดเด่นในพลัง Synergy และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจค้าปลีกและการเงินได้อย่างชัดเจน จึงมั่นใจว่า อาจจะได้เห็นความร่วมมือใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างการเติบโตภายในกลุ่มบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ย้ำความมั่นใจ บริษัทฯ วางเป้าหมายปีนี้มีกาไรเติบโตต่อเนื่องอีก 30% จากปีก่อนหน้า นำโดย เจเอ็มที ซิงเกอร์ และบริษัทย่อยอื่นๆ ที่จะสร้างกาไรให้กับกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่าราคาหุ้น JMART วันนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงตอบรับกับประเด็นดังกล่าว ที่จะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

Back to top button