CHAYO ทะยานไม่หยุด! พุ่งอีก 10% ทำออลไทม์ไฮต่อเนื่อง รับจับมือ AUCT ต่อยอดธุรกิจลีสซิ่ง

CHAYO ทะยานไม่หยุด! พุ่งอีก 10% ทำออลไทม์ไฮต่อเนื่อง รับจับมือ AUCT ต่อยอดธุรกิจลีสซิ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ณ เวลา 11.19 น. อยู่ที่ระดับ 12.50 บาท บวก 1.10 บาท หรือ 9.65%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 113.09 ล้านบาท ราคาหุ้นเดินทำจุดสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯต่อเนื่อง

โดยบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านธุรกิจกับเจ้าตลาดในการประมูลสินค้า บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT แย้มแผนลุยประมูลซื้อหนี้กลุ่มลีสซิ่ง ทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ เข้ามาบริหาร โดยสามารถนำมาประมูลที่สหการประมูลได้ เพื่อเข้าสู่ระบบที่เป็นมาตรฐาน เป็นทางเลือกให้ลูกค้าสามารถลดภาระหนี้และหรือปลอดภาระหนี้ได้โดยเร็วขึ้น

โดย นายนที ลิ้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ สายบริหารหนี้ บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของ CHAYO ในการเพิ่มพันธมิตรด้านการประมูล เข้ามาเสริมแกร่ง สนับสนุนโอกาสในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหาร ในกลุ่มสินเชื่อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ จากเดิมบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการซื้อหนี้ประเภทไม่มีหลักประกัน และหนี้ที่มีหลักประกันเข้ามาบริหารอยู่แล้ว

ทั้งนี้จากการมองเห็นโอกาสในปี 2563 ที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้มีการขายหนี้กลุ่มสินเชื่อรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ออกมามากขึ้น จากสถาบันการเงินทั้งกลุ่ม Bank และ Non-Bank ซึ่งบริษัทฯ ก็ได้ศึกษาตลาดดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว และมองเห็นโอกาสในการลงทุน จากอายุหนี้ที่สั้น มีรถเป็นหลักประกัน อีกทั้ง รถยังถือเป็นปัจจัยที่ 5 ลูกค้าต้องใช้ในการดำรงชีวิต และประกอบอาชีพ จึงได้เริ่มรุกตลาด และเข้าไปซื้อหนี้กลุ่มดังกล่าวเข้ามาบริหาร ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีพอร์ตหนี้กลุ่มรถยนต์และรถจักรยานยนต์มูลค่ารวมประมาณ 6,500 ล้านบาท

“ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเราได้ซื้อหนี้กลุ่มรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ เข้ามาบริหาร จากสถาบันการเงินราว 3  แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 6,500 ล้านบาท ปรากฏว่า มีลูกค้าแสดงความประสงค์จะชำระหนี้ ต้องการปิดบัญชี และไม่ต้องการให้ยึดรถ จำนวนพอสมควร เราจึงมองหาพันธมิตรทางด้านการประมูล เพื่อนำรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ เข้ามาร่วมประมูลขายทอดตลาด  จึงเป็นที่มาของการจับมือกับ บมจ.สหการประมูล ในครั้งนี้ เพราะหากมีการคืนรถหรือยึดรถ เราสามารถดำเนินการกับพันธมิตรด้านการประมูลที่ได้รับการยอมรับ และมีมาตรฐานสากล ทำให้ลูกค้าวางใจได้ในเรื่องของการประเมินราคา มีการซื้อขายอย่างเป็นธรรม เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าในการปิดบัญชี และชำระหนี้ อย่างไรก็ดี CHAYO ยังวางแผนในการขยายพอร์ตซื้อหนี้กลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติมอีก คาดจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปีนี้”  นายนที กล่าว

ด้าน นายวรัญญู ศิลา กรรมการผู้จัดการ AUCT กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจให้บริการเป็นคนกลางในการจัดการประมูลทรัพย์สินทุกประเภท รวมทั้งให้บริการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมูล โดยมีพอร์ตหลักคือรถจักรยานยนต์และรถยนต์รวมกว่า 90% ของพอร์ตสินค้าทั้งหมด ทำให้บริษัทฯ เชี่ยวชาญ และเป็นที่ยอมรับจากลูกค้ามาตลอดระยะเวลา 30 ปี จึงเชื่อมั่นว่า จะสนับสนุนการดำเนินงานของ CHAYO ได้เป็นอย่างดี และเป็นโอกาสขยายตลาดการประมูลรถจักรยานยนต์และรถยนต์ในปีนี้เพิ่มขึ้น ด้วยการให้บริการอย่างมืออาชีพ

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า  CHAYO คงคำแนะนำ ซื้อ แต่ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 11.00 บาท อิง 2021E PER 35x (+2.25 SD above 3-yr average PER) หรือคิดเป็น 2021E PEG 1.0x (2020E-2022E EPS CAGR +34% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากเดิม 9.50 บาท อิง 2021E PER ที่ 30x (+1.25SD) มองเป็นบวกต่อการจัด Group conference call วานนี้ (26 ม.ค.) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวสูง หนุนโดย 1) การรับรู้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

สำหรับกองหนี้ unsecured loan ที่มีการตัดจำหน่ายทุนครบแล้ว, 2) ฐานหนี้เสียที่ซื้อมาบริหารเพิ่มขึ้นสูง และ 3) การร่วมทุน JV ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2564 ทำให้บริษัทมีความสามารถในการซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มขึ้น

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 223 ล้านบาท (+35% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จาก 1) รายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น +38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนตามกองหนี้ที่บริหารเพิ่มขึ้น และ 2) อัตราต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวลดลง รวมทั้งได้รับผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ที่ระดับ 0.5% โดยกำไรสุทธิไตรมาส 4/2563 ยังเติบโตดีที่ 44 ล้านบาท (+126% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +39% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น +79% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและรับรู้กำไรจากการขายทรัพย์ NPA ที่ประมาณ 20 ล้านบาท

ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น และ outperform SET +13%/+102% ในช่วง 1 และ 12 เดือนที่ผ่านมา จากผลการดำเนินงานที่ขยายตัวสูง อย่างไรก็ตามยังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยกำไรจะยังคงเติบโตดีที่ 2020E-2022E EPS CAGR = +34% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากเงินสดรับการติดตามหนี้ที่จะดีขึ้น ภายหลังที่บริษัทมีกองหนี้ unsecured loan และรับรู้รายได้ Fully amortized เพิ่มขึ้น

Back to top button