ทริสฯ อัพเรทติ้ง GUNKUL เป็น “BBB+” ปรับแนวโน้ม “Stable” สะท้อนกระแสเงินสดมั่นคง!

ทริสฯ อัพเรทติ้ง GUNKUL เป็น “BBB+” จากเดิม "BBB"-หุ้นกู้เป็น "BBB" จากเดิม "BBB-" ปรับแนวโน้ม “Stable” สะท้อนสถานะการเงินแข็งแกร่ง


ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เป็นระดับ “BBB+” จากเดิมที่ระดับ “BBB” และเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทเป็นระดับ “BBB” จากเดิมที่ระดับ “BBB-” โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้นนั้นสะท้อนการด้อยสิทธิทางโครงสร้างในสิทธิเรียกร้องของหุ้นกู้

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก” ด้วย โดยการปรับเพิ่มอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงกระแสเงินสดของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้นและความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น

โดยอันดับเครดิตดังกล่าวยังคงสะท้อนถึงขีดความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรหรือบูรณาการในแนวดิ่ง (Vertical Integration) และกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็ถูกลดทอนจากความเสี่ยงของประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเติบโตของการลงทุนในต่างประเทศ ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัท

ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าโรงไฟฟ้าของบริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจและสร้างกระแสเงินสดจำนวนมากและมั่นคงตามที่วางแผนไว้ ในขณะที่ธุรกิจอุปกรณ์ระบบไฟฟ้านั้นคาดว่าน่าจะยังคงแข็งแกร่งเช่นเดิม นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดด้วยว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่กำลังเติบโตนั้นจะไม่ทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

โดยปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง การปรับเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากกระแสเงินสดเมื่อเทียบกับภาระหนี้และโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้ายังคงเป็นธุรกิจหลักในการสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัท

ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงได้หากสถานะทางการเงินของบริษัทแย่ลงอย่างมีสาระสำคัญ ซึ่งเหตุดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ ต่ำกว่าการคาดการณ์หรือเป้าหมายที่วางไว้อย่างมาก หรือบริษัทมีการลงทุนขนาดใหญ่โดยการก่อหนี้จำนวนมาก หรือการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างรวดเร็วจนส่งผลกระทบทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ

Back to top button